ฉกจตุคาม แท็กซี่แสบลวงสาว ทำทีขอดู-ซิ่งรถหนี

เผยเหยื่อหลงกลลงไปซื้อบุหรี่ให้แล้วนำไปขายต่อร้องสวพ.91ได้คืน



แท็กซี่เฒ่าสุดแสบฉกจตุคามรามเทพผู้โดยสารสาว เผยพอรู้ว่ามาจากเมืองคอนทำทีเป็นพูดคุยเรื่องวัตถุมงคลชื่อดัง

พร้อมกับขอดู จากนั้นก็ฉวยโอกาส

หลอกให้ลงไปซื้อบุหรี่ให้พอเหยื่อหลงเชื่อก็ซิ่งรถหนีหน้าตาเฉยพร้อมกับจตุคามฯ เหยื่อสาวรุดร้องวิทยุสวพ.ออกประกาศจนได้ของคืน เพราะแท็กซี่เจ้าเล่ห์นำไปขายต่อให้เพื่อนแท็กซี่อีกทอดหนึ่ง

มติชนจัดสัมมนาจตุคามฯ

นักวิชาการทึ่งเงินสะพัดหมื่นล้าน ชี้กระแสจตุคามฯทำให้วัตถุมงคลกลายเป็นสินค้าทางอุตสาหกรรมได้ ขณะที่"นิธิ เอียวศรีวงศ์"ระบุเป็นเครื่องรางที่ตอบสนองความเชื่อชนชั้นกลางและสังคมบริโภคได้ แต่คุณค่าทางจริยธรรมมีน้อย

เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 26 เม.ย.

ที่สถานีวิทยุ สวพ.91 นายจงรักษ์ สร้อยทอง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 5 อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง อาชีพขับรถแท็กซี่ เดินทางมาที่ สวพ.91 พร้อมด้วยสร้อยสแตนเลสและองค์จตุคามฯ เพื่อมอบคืนให้นางนฤนันท์ ผิวผ่อง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/3 หมู่ 5 ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช

นางนฤนันท์เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.

วันที่ 25 เม.ย. ตนนั่งรถแท็กซี่โตโยต้า สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทร 6603 กรุงเทพ มีคนขับเป็นชายอายุประมาณ 60 ปี เป็นผู้ขับขี่ โดยนั่งจากย่านสะพานใหม่ให้ไปที่สถานีขนส่งสายใต้



เพื่อจองตั๋วรถทัวร์กลับบ้านต่างจังหวัด

โดยบอกให้แท็กซี่คันดังกล่าวรออยู่ก่อน หลังจากจองตั๋วเสร็จเรียบร้อยแล้วตนบอกให้คนขับดังกล่าวมาส่งที่บ้านย่านสะพานใหม่ ระหว่างทางคนขับได้พูดถึงเรื่องพระและองค์จตุคามรามเทพ ตนก็บอกว่ามีอยู่เหมือนกันพร้อมทั้งโชว์ให้ดู

นางนฤนันท์ กล่าวต่อว่า

เมื่อคนขับมาถึงบริเวณ ซ.พหลโยธิน 48 โชเฟอร์แท็กซี่คนนั้นได้ออกอุบายว่าช่วยลงไปซื้อบุหรี่พร้อมจอดรถ ตนก็เดินลงไปซื้อให้ ซึ่งช่วงนั้นตนได้เอาองค์จตุคามฯ ให้คนขับชม หลังจากซื้อบุหรี่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

เมื่อออกมาจากร้านก็พบว่ารถแท็กซี่ได้หายไป

พร้อมองค์จตุคามฯ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับบ้านและไม่กล้าที่จะเล่าเรื่องดังกล่าวให้สามีฟัง เนื่องจากองค์จตุคามฯ เป็นของสามีและกลัวจะถูกต่อว่า จนกระทั่งเช้าได้ไปซื้อของที่ตลาดสะพานใหม่

ได้ขึ้นรถแท็กซี่คันหนึ่งพร้อมทั้งเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง

แท็กซี่คนนั้นก็แนะนำให้ไปที่สวพ.เพื่อช่วยตามหา เมื่อทางสวพ.91 ออกอากาศแล้วก็มีนายจงรักษ์ เดินทางมาที่สวพ.เช่นกันพร้อมทั้งนำองค์จตุคามฯ คืนให้ตน

ด้านนายจงรักษ์ เปิดเผยว่า

ก่อนเกิดเหตุเมื่อวานนี้ช่วงเย็น ขณะที่ตนล้างรถแท็กซี่อยู่ที่อู่ย่าน ซ.นวลจันทร์ มีผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 60 ปี ขับขี่รถแท็กซี่โตโยต้าสีชมพู หมายเลขทะเบียน ทร 6606 กรุงเทพมหานครเข้ามา



ตนถามว่าวันนี้วิ่งรถได้เงินเท่าไร

ชายคนนั้นก็บอกว่าไม่ได้เงินได้แต่องค์จตุคามฯ มาอย่างเดียว พร้อมทั้งโชว์ให้ดู ตนก็ถามต่อว่าแล้วได้มาได้อย่างไร ลุงเค้าบอกว่ามีผู้โดยสารเป็นผู้หญิงคนหนึ่งไม่มีเงินค่าโดยสารให้ ก็เลยเอาองค์จตุคามฯ ให้แทน

ตนก็บอกว่าลุงจะขายหรือเปล่า

ลุงก็บอกว่าขายก็ได้ในราคา 300 บาท ตนก็รับซื้อมาจนกระทั่งเช้าขณะขับรถแท็กซี่และเปิดฟังสวพ.91 และก็พบว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าว จึงได้เดินทางมาพร้อมทั้งมอบองค์จตุคามฯ ให้เจ้าของที่แท้จริง เพราะไม่อยากได้ของของคนอื่น

เมื่อเวลา 13.30 น. วันเดียวกัน

ที่ห้องประชุมชั้น 9 บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ได้มีการจัดเสวนาเรื่องจตุคามรามเทพ สังคม ศรัทธา และมูลค่าการตลาด" วิทยากรร่วมเสวนา ประกอบด้วย รศ.ศรีศักร วัลลิโภดม นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ชื่อดัง,

ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการและอธิการบดี

มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน, ไมเคิล ไรท นักเขียนและนักวิชาการอิสระ, รศ.ฉลอง สุนทราวาณิชย์ อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นายสรณ์ จงศรีจันทร์ ซีอีโอ บริษัท เดนท์สึ ยัง แอนด์รูบิแคม จำกัด และผศ.ธีรพันธ์ โล่ห์ทองคำ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจ บริษัท โด เดอะ ไลน์ คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด

รศ.ฉลอง กล่าวว่า ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา

เกิดปรากฏการณ์ที่น่าสนใจต่อสังคมไทย คือ กระแสความนิยมต่อวัตถุมงคลจตุคามรามเทพ ที่มีคนไทยให้ความศรัทธาและเช่าบูชาเป็นจำนวนมาก ทำให้ในปี 2549 มีการคำนวณว่าทำให้เกิดเงินหมุนเวียนสะพัด



ในตลาดนับหมื่นล้านบาท

โดยส่วนตัวเชื่อว่าความเชื่อถือในเครื่องรางของขลัง มิได้เกิดที่ประเทศไทยเพียงแห่งเดียว แต่เกิดขึ้นทุกแห่งทั่วโลก ทั้งยุโรป อเมริกา หรือแม้แต่ในสังคมชาวคริสต์หรืออิสลามก็ตาม แต่ในประเทศไทย

เป็นเพียงแห่งเดียวในโลกที่สามารถพัฒนาการ

ให้เครื่องรางของขลังหรือวัตถุมงคล กลายเป็นสินค้าทางการตลาด มีมูลค่าทางการตลาด หรือในการเก็งกำไร อาจเรียกได้ว่าประเทศไทยได้ยกระดับขึ้นเป็นอุตสาหกรรมเครื่องรางไปแล้ว ปัจจุบัน

เชื่อว่า การเช่าบูชาจตุคามรามเทพ รวมไปถึงธุรกิจ

ที่มีความเกี่ยวข้องด้วย ทำให้มีเงินสะพัดในประเทศกว่า 3 หมื่นล้านบาท ดังนั้น จึงคาดการณ์ได้ว่าการจัดสร้างจตุคามรามเทพ ยังมีอนาคตที่สดใสและสามารถเติบโตได้อีก

ศ.นิธิ กล่าวว่า คนที่มีความเลื่อมใส

ศรัทธาต่อองค์จตุคามรามเทพ ส่วนใหญ่เป็นคนชั้นกลาง ด้วยองค์จตุคามฯ สามารถตอบสนองต่ออุดมการณ์ของคนชั้นกลางได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะความเชื่อในด้านการทำมาค้าขาย จะทำให้ร่ำรวย ธุรกิจเติบโต

ประสบความสำเร็จ แต่ในด้านจริยธรรม

จตุคามรามเทพ ส่งผลให้คนมีจริยธรรมลดน้อยลง หรือแทบไม่มีเลย ด้วยจตุคามฯ ต้องทำให้เราขออธิษฐานสิ่งที่ปรารถนา ขอได้ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่รู้จักพอ ขัดกับหลักการแห่งความพอดีในพระพุทธศาสนา



และในด้านอุดมคติ จตุคามรามเทพ

ตอบสนองชีวิตของคนชั้นกลางในลัทธิบริโภคนิยมได้ ด้วยคนที่มีความต้องการเช่าบูชาจตุคามฯ จะต้องมีเงินและมีฐานะ คาดหวังในการต่อยอดทางการเงินอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ไมเคิล ไรท กล่าวว่า เท่าที่ทราบ

ชื่อของวัตถุมงคลจตุคามรามเทพ ตนไม่เคยพบเห็นจากข้อมูลตำราหรือคัมภีร์โบราณ ไม่ว่าจะเป็นของพราหมณ์-ฮินดู หรือพุทธศาสนา ทำให้เราไม่มีหลักฐานมาสนับสนุนถึงที่มาของจตุคามรามเทพ

แต่ในหนังสือคัมภีร์ชินกาลมาลีปกรณ์

ในตอนหนึ่งระบุว่า ในสมัยพระร่วงแห่งสุโขทัย ได้ยินถึงกิตติศัพท์ของพระพุทธสิหิงค์แห่งเกาะลังกา พระร่วงปรารถนาที่จะให้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์กลับมาที่สุโขทัย จึงได้ส่งทูตไปยังเจ้าผู้ครองอาณาจักรศรีวิชัย

เพื่อหารือถึงการอัญเชิญพระพุทธรูปศักดิสิทธิ์ดังกล่าว

แต่เจ้าผู้ครองอาณาจักรศรีวิชัยได้กล่าวเตือนว่าคงไม่สามารถกระทำได้ ด้วยเกาะลังกา มีเทพ 4 องค์ คอยปกปักรักษา ประกอบด้วย พระราม พระลักษณ์ ขัตตุคาม และ รามเทพ

ตรงนี้ คงเป็นที่มาของชื่อจตุคามรามเทพ

ที่คนไทยได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์นำมาเรียกรวมกันและแปลงชื่อเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ให้อ่านว่าจตุคามรามเทพ เพื่อให้ออกเสียงได้ง่ายกว่า



ส่วนรศ.ศรีศักร กล่าวว่า

ปรากฏการณ์จตุคามรามเทพ ถือเป็นความเคลื่อนไหวทางระบบความเชื่อที่ไม่มั่นคงของคนในสังคมไทย เมื่อเราเกิดความรู้สึกที่ไม่มั่นคงในชีวิต จำเป็นต้องหาที่พึ่งทางจิตใจ ระบบความเชื่อ

แบ่งได้ 2 ประเภท คือ ศาสนากับไสยศาสตร์

ในด้านศาสนา เป็นความเชื่อในอำนาจศักดิ์สิทธิ์เหนือธรรมชาติที่ให้ความสงบสุขร่มเย็นในชีวิต แต่ไสยศาสตร์ เป็นความเชื่อในอำนาจศักดิ์สิทธิ์เหนือธรรมชาติที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง เมื่อศาสนาอ่อนแอ คนต้องหันไปพึ่งไสยศาสตร์แทน

"สำหรับจตุคามรามเทพถือเป็นกระบวนการ

ในทางความเชื่ออย่างหนึ่ง ทุกครั้งที่เกิดความไม่มั่นคงในสังคม ประชาชนจะมุ่งหาสิ่งที่คอยยึดเหนี่ยวจิตใจ สังคมไทยเป็นสังคมที่ความเชื่อเข้ามาครอบงำวิถีชีวิต กลายเป็นมิติวิญญาณของคนไทย

เราพัฒนาแต่วัตถุ

แต่แก้ปัญหาด้วยเหตุผลมิได้ ศาสนากลายเป็นไสยศาสตร์ที่มีอิทธิปาฏิหาริย์ สามารถแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง" รศ.ศรีศักร กล่าว

ด้านนายสรณ์ กล่าวถึง

จตุคามรามเทพในมุมมองการทำโฆษณา ว่า จตุคามรามเทพ ถือเป็นมหัศจรรย์แห่งความเชื่อในยุคปัจจุบันของคนไทย ด้วยจตุคามฯ สามารถเข้าไปอยู่ในวงจรชีวิตและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุม



ตามหลักทฤษฎีมาสโลว์ (Abraham H.Maslow)

นักจิตวิทยากลุ่มมนุษยนิยม โดยเฉพาะทฤษฎีลำดับความต้องการ อธิบายว่ามนุษย์มีความต้องการเป็นลำดับขั้น อาทิ ขั้นที่ 1 ความต้องการทางสรีระ ขั้นที่ 2 ความต้องการความปลอดภัย

ขั้นที่ 3 ความต้องการความเป็นเจ้าของ

ขั้นที่ 4 ความต้องการเป็นที่ยอมรับและเกียรติยศชื่อเสียง ขั้นที่ 5 ความต้องการสมบูรณ์แบบในชีวิต ซึ่งองค์จตุคามฯ สามารถตอบสนองได้อย่างรอบด้าน อย่างที่นักโฆษณาไม่เคยพบกรณีศึกษาเช่นนี้มาก่อน

นอกจากนี้ องค์จตุคามฯ

ยังสามารถเข้าไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ทุกชนชั้น ซึ่งหากเป็นสินค้าทั่วไป จะสามารถเข้าถึงได้เฉพาะลูกค้าบางกลุ่มเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัจจุบันมีการสร้างจตุคามฯ มากมาย

ไม่แต่เฉพาะที่เมืองนครศรีธรรมราชเท่านั้น

แต่กระจัดกระจายไปทั่วประเทศ ตรงจุดนี้ ถือว่าน่าเป็นห่วง เพราะในมุมมองนักการตลาด สินค้าจะมีวงจรชีวิต หากคุมตลาดไม่อยู่ จะทำให้ตราสินค้าเกิดความเสียหายได้ในระยะยาว

ผศ.ธีรพันธ์ กล่าวถึงจตุคามรามเทพ

ในแง่มุมของนักการตลาด ว่า การทำตลาดเพื่อทำให้สินค้าสามารถสร้างยอดขายได้สูงมากที่สุด หากเปรียบเทียบจตุคามรามเทพ เป็นสินค้าชนิดหนึ่ง เราสามารถวิเคราะห์ได้ว่า



กระแสนิยมจตุคามฯ มาจากการสร้าง

รูปลักษณ์ภายนอกที่แปลกสะดุดตา มีขนาดใหญ่กว่าพระเครื่องทั่วไป ต้องนำไปแขวนห้อยคอนอกเสื้อ รวมถึงมีตำนานเรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจ อีกทั้ง จตุคามฯ ยังไม่ต้องพึ่งการนำพรีเซ็นเตอร์มาโฆษณาให้เป็นที่รู้จัก

แต่เกิดกระแสด้วยการพูดกันแบบปากต่อปาก

อีกทั้ง มีการตั้งชื่อรุ่นให้มีความน่าสนใจ มีราคาให้เลือกเช่าบูชาได้หลากหลาย มีช่องทางการตลาดมากมาย ตั้งแต่การสั่งจองที่แผงพระเครื่องทั่วไป ร้านค้าสะดวกซื้อ ที่วัด หรือแม้แต่ตามสื่อทั่วไป

นอกจากนี้ จตุคามฯ

ยังส่งผลให้ธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องเติบโตไปด้วย เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบครบวงจร เช่น การเปิดทัวร์ท่องเที่ยวตามรอยจตุคามฯ การอัดกรอบ เลี่ยมพระ ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก เป็นต้น อย่างไรก็ตาม

หากจะให้วิเคราะห์ว่ากระแสจตุคามฯ

จะตกวูบลงเมื่อใดนั้น คงไม่สามารถระบุได้ชัดเจน เพราะคนที่ศรัทธาในองค์จตุคามฯ จะมีความต้องการขอเช่าบูชาไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด ตราบจนกว่าจะถึงวันที่มีการสร้างจตุคามฯ แล้วไม่มีคนต้องการสั่งจองอีก เมื่อถึงเวลานั้น คงไม่มีผู้ใดจัดสร้างออกมาอย่างแน่นอน



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์