จับปรับนางแบบ-ติดสติ๊กเกอร์ที่สงวน

"ผู้จัดฯแจง ไม่มีเจตนา นางแบบเมา ให้ติดเอง"



เมื่อวันที่ 24 เม.ย. พ.ต.อ.วรวัฒน์ อมรวิวัฒน์ ผกก.ศูนย์สวัสดิภาพเด็ก เยาวชน และสตรี (ศดส.) บช.น.

เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีหญิงสาวแต่งกายชุดวาบหวิว

และให้ผู้ชายปิดสติ๊กเกอร์ผลิตภัณฑ์ถุงยางอนามัยตามเรือนร่างและของสงวนในงานเลี้ยงแห่งหนึ่งว่า จากการตรวจสอบทราบว่า เป็นงานที่จัดขึ้นในวาระครบรอบ 6 ปีของนิตยสารสำหรับผู้ชายฉบับหนึ่ง

ใช้ชื่อจัดการประกวดว่า มิสคิวตี้

เมื่อเดือนพ.ย.2549 ในโรงแรมย่านวังทองหลาง กรุงเทพฯ โดยจัดให้นางแบบสาวใส่ชุดว่ายน้ำเดินประกวดโชว์เรือนร่าง และมีวิธีการให้คะแนนโดยใช้จำนวนสติ๊กเกอร์ที่สนับสนุนผลิตภัณฑ์ถุงยางอนามัยยี่ห้อหนึ่ง

ปิดบนร่างกายเพื่อตัดสินผลแพ้ชนะ

ซึ่งนางแบบคนอื่นๆ แต่งกายใส่ชุดว่ายน้ำตามปกติ แต่มีนางแบบบางคนอยู่ในอาการเมา จึงเปิดชุดแต่งกายให้ปิดสติ๊กเกอร์ที่บริเวณของสงวน เพื่อให้ได้คะแนนมากกว่าผู้แข่งขันคนอื่น จนกลายเป็นข่าวครึกโครม

พ.ต.อ.วรวัฒน์กล่าวต่อว่า

ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปสอบปากคำเจ้าของโรงแรมสถานที่จัดงาน เจ้าของนิตยสาร และบริษัทผลิตภัณฑ์ถุงยางอนามัย ให้การสอดคล้องตรงกันว่าไม่ได้มีเจตนาจัดงานให้มีรูปแบบส่อลามกอนาจาร



ดังที่ปรากฏออกมา แต่เป็นการประกวดกันธรรมดา

ทางตำรวจจึงดำเนินคดีหญิงสาวที่ปรากฏภาพในหนังสือพิมพ์ไปแล้ว 1 ราย ตามมาตรา 388 ข้อหาเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล ต้องโทษปรับ 500 บาท

โดยเปรียบเทียบปรับที่สน.วังทองหลาง

สอบสวนให้การรับสารภาพว่ากระทำผิดจริง แต่ไม่ดำเนินคดีผู้จัดงาน เนื่องจากวัตถุประสงค์ของการจัดงานไม่ได้เป็นไปในทางลามกอนาจาร เพราะไม่เข้าข่ายผิดกฎหมาย

ส่วนความคืบหน้ากรณีคณะหมอลำซิ่งแห่งหนึ่ง

แสดงโชว์เปิดกระโปรงโชว์ของสงวน หน้าเวทีในงานบวชที่ จ.สมุทรสาคร ต่อมาทางผวจ.สมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สั่งสอบสวนหาตัวคณะหมอลำซิ่งฉาวโฉ่มาดำเนินคดีให้ได้

โดยในเบื้องต้นไปสอบปากคำหัวหน้าคณะวงดนตรีเล็กมิวสิค

ซึ่งมีชื่อปรากฏอยู่ด้านหลังเวที ปรากฏว่าให้การปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว โดยอ้างว่าภาพที่ปรากฏเป็นตอนกลางคืน แต่คณะของตนเองแสดงตอนกลางวัน



ขณะเดียวกัน บรรดาศิลปินหมอลำชื่อดัง

ต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของคณะหมอลำโชว์ของสงวน ว่าไม่ใช่หมอลำซิ่งของจริง เป็นการแอบอ้าง และทำลายภาพพจน์ของหมอลำ ซึ่งเป็นการแสดงและวัฒนธรรมอันดีงามของชาวอีสาน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ภาค 7 กล่าวว่า

จากการสอบสวนวงดนตรีเล็กมิวสิค ในเบื้องต้นยังไม่พบหลักฐานการกระทำความผิดที่ชัดเจน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ไว้วางใจเชื่อคำให้การของผู้ประกอบการ ดังนั้น

จะขยายผลสืบสวนสอบสวนให้ได้ตัวผู้กระทำความผิด

โดยจะสืบสวนหาตัวผู้แสดงว่าเป็นใครอยู่ที่ไหน ผู้ที่จ้างมาแสดง หรือเจ้าของงานเป็นใคร เพื่อจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์