เจ้าของงานบวช ยัน-ไม่มีโชว์จิ๋ม

"เจ้าของยัน ไม่มีโชว์จิ๋ม"



จากกรณีศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม แฉภาพการแสดงหมอลำซิ่งในงานบวชแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร

ที่หางเครื่องสาวเปิดกระโปรงโชว์ของ

สงวน แล้วถอดเสื้อผ้าเดินรอบเวทีโชว์เรือนร่างอย่างไร้ยางอาย ซึ่ง พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ภ.7 ถึงกับเต้นสั่งตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมระบุว่า จากการสืบสวนทราบว่าเป็นการแสดงของคณะเล็ก มิวสิค

ของนายเสกสรร ศรส่งกลิ่น อายุ 41 ปี

โดยนายเสกสรรยอมรับว่า ไปแสดงโชว์ในงานบุญที่วัดโคก และป้ายด้านหลังโชว์ฉาวเป็นของ บริษัทเล็ก มิวสิค แต่ไม่มีการโชว์ลามกและภาพดังกล่าวเป็นช่วงกลางคืน เชื่อว่ามีการกลั่นแกล้งหรือตัดต่อภาพนั้น

ความคืบหน้าการควานหาผู้จัดแสดงโชว์อนาจาร

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 24 เม.ย. พ.ต.ท.ชาติชาย นาถึง รอง ผกก.หน.สภ.ต.โคกขาม อ.เมืองสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ในเขต อ.เมืองสมุทรสาคร ไม่มีวัดโคกคาม เชื่อว่าข้อเท็จจริงอาจคลาดเคลื่อน

และได้สั่งการให้ ร.ต.อ.ไตรรินทร์ คุ้มคำ

รอง สวป.ทำหน้าที่หัวหน้างานสืบสวน สภ.ต. โคกขาม ตรวจสอบผู้นำชุมชน และวัดในพื้นที่ซึ่งมีทั้งสิ้น 9 แห่ง ได้แก่ 1. วัดโคกขาม หมู่ 2 ต.โคกขาม 2. วัดศรีบูรณาวาส (วัดโคก) หมู่ 4 ต.โคกขาม 3. วัดสหกรณ์โฆษิตราม หมู่ 10 ต.โคกขาม 4. วัดบ้านโคก หมู่ 6 ต.พันท้ายนรสิงห์



5. วัดบ้านไร่เจริญผล หมู่ 5 ต.พันท้ายนรสิงห์

6. วัดสุทธิวราวาส (วัดกลางทุ่ง) หมู่ 6 ต.พันท้ายนรสิงห์ 7. วัดสหธรรมิการาม หมู่ 4 ต.พันท้ายนรสิงห์ 8. วัดพันท้ายนรสิงห์ หมู่ 5 ต.พันท้ายนรสิงห์ และ 9. วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ หมู่ 3 ต.พันท้ายนรสิงห์

พบว่าในช่วงเดือน มี.ค. และ เม.ย.

มีงานอุปสมบทเพียงงานเดียวที่มีการแสดงดนตรีของคณะเล็ก มิวสิค คือที่วัดศรีบูรณาวาส (วัดโคก) ส่วนในวันที่ 20 มี.ค. ตามที่เป็นข่าว ไม่มีการจัดงานอุปสมบท หรืองานบุญอื่นแต่อย่างใด

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดศรีบูรณาวาส (วัดโคก)

เพื่อขอเข้าพบพระมหาณรงค์ จักกะวังโส รักษาการเจ้าอาวาสวัดศรีบูรณาวาส แต่ไม่พบ จึงเข้าไปที่จุดบริการประชาชนหน้าวัด พบ ร.ต.อ.ไตรรินทร์ คุ้มคำ รอง สวป. ทำหน้าที่หัวหน้างานสืบสวน สภ.ต.โคกขาม

กำลังสอบถาม ข้อมูลจากนายธนวัฒน์

ชาวท่าทราย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.โคกขาม และชาวบ้านละแวกวัด โดยนายธนวัฒน์แจ้งว่า งานบวชในวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา เป็นงานบวชนายปราโมทย์ เพ็ชรเทียม อยู่บ้านเลขที่ 43/304 หมู่ 4 ต.โคกขาม

มีการจัดเลี้ยงโต๊ะจีน 50 โต๊ะ

งานเริ่มเวลา 12.00-14.30 น. และมีการจัดแสดงวงดนตรีเล่นอิเล็กโทน ในราคา 10,000 บาท พร้อมหางเครื่อง 8 คน



ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 กล่าวต่อว่า ตนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ

สภ.ต.โคกขาม มาดูแลความเรียบร้อยในงาน และคณะกรรมการวัดก็อยู่ในงานด้วย การแสดงเป็นไปด้วยความสุภาพเรียบร้อย และไม่มีการแสดงในตอนกลางคืนแต่อย่างใด ซึ่งนายธนวัฒน์ได้มอบภาพถ่ายในงาน

และภาพถ่ายการแสดงหางเครื่องบนเวที

ซึ่งขอมาจากพระปราโมทย์ เพ็ชรเทียม ให้ ร.ต.อ.ไตรรินทร์ ไว้เป็นหลักฐานด้วย เป็นภาพนักร้องสาวยืนร้องเพลงกลางเวที มีหางเครื่องสาว 4 คน แต่งชุดวาบหวิวแบบทูพีซ ท่อนบนเป็นเสื้อคล้ายเสื้อยกทรงแต่งระบายที่ขอบเสื้อ ท่อนล่างเป็นกระโปรงสั้นจู๋ เต้นโชว์อยู่ด้านหลัง

ทางด้านพระปราโมทย์ เพ็ชรเทียม

กล่าวว่า การ์ดเชิญงานบวชของตน พิมพ์ตำบลผิดเป็นตำบลโคกคาม แต่ชาวบ้านรู้จักวัดศรีบูรณาวาส (วัดโคก) เป็นอย่างดี ส่วนการแสดงดนตรีในงานบวช ได้ตั้งเวทีข้างเรือนไทยใกล้โบสถ์ โดยไม่ได้ร่วมดูการแสดงแต่อย่างใด

หลังจบการแสดงราวบ่ายสองโมงเศษ

จึงเข้าไปทำพิธีอุปสมบทในโบสถ์ และไม่มีการแสดงในตอนกลางคืน ส่วนวัดแห่งนี้เคยจัดแสดงคอนเสิร์ตมอญ ในช่วงวันที่ 12-14 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นงานประจำปี แต่ไม่มีหางเครื่องเต้นโชว์

ทางด้าน พล.ต.ต.สมพงษ์ สำราญสุข

ผบก.ภ. จ.สมุทรสาคร ยืนยันว่า ไม่มีการแสดงลามกตามที่เป็นข่าวในพื้นที่แต่อย่างใด เท่าที่คุยกับเจ้าของวง ทราบว่าในรอบเดือน เม.ย. มีการแสดงเพียงวันที่ 22 เม.ย.ที่วัดศรีบูรณาวาส (วัดโคก)



เพียงงานเดียว โดยวงดังกล่าวมีหางเครื่อง 3 คน

ส่วนที่เหลือไปติดต่อมาจากเครือข่ายวงดนตรีในต่างจังหวัด และยังยืนยันว่าภาพสาวที่ปรากฏในข่าวไม่ใช่เด็กในสังกัด พล.ต.ต.สมพงษ์กล่าวต่อว่า ได้เรียกประชุมหัวหน้าโรงพักทุกแห่ง ย้ำว่าหากพบเห็นการแสดงลามกอนาจาร ต้องจับดำเนินคดีทันที

ที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) วันเดียวกัน

มีการประชุมคณะอนุกรรมการสืบสวนปราบปรามสื่อที่กระทำผิดกฎหมาย พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในประธานคณะอนุกรรมการฯ กล่าวภายหลังการประชุมว่า

จากการที่นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี

ในฐานะประธานคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์และปลอดภัย ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการชุดนี้ ให้เป็นคณะทำงานขจัดสื่อร้าย ซึ่งจากการประชุมได้ข้อสรุปว่า คณะอนุกรรมการฯจะเน้นการปราบปรามสื่อที่กระทำผิดกฎหมาย 7 ประเภท

ได้แก่ สื่อสิ่งพิมพ์ อินเตอร์เน็ต วิทยุกระจายเสียง

วิทยุโทรทัศน์ วัสดุเทปโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และโทรศัพท์เคลื่อนที่ กำหนดขั้นตอนการทำงานของคณะอนุกรรมการฯ ให้มีความชัดเจน พร้อมทั้งแบ่งงานเป็น 3 ส่วน

ได้แก่ 1. หน่วยเฝ้าระวัง เป็นหน่วยรับข้อมูลข่าวสาร

ของสื่อที่กระทำผิดกฎหมายต่างๆ 2. หน่วยวิเคราะห์พิจารณาเนื้อหาของสื่อในแง่กฎหมาย ศีลธรรม และความสงบเรียบร้อยว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย ผิดศีลธรรม



หรือวัตถุสิ่งของลามกหรือไม่ และ 3. หน่วย

ที่ทำหน้าที่ในการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมีการแบ่งงานในแต่ละพื้นที่ ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนจังหวัด

รอง ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า

ขั้นตอนต่อไปคณะอนุกรรมการฯมอบหมายให้ทุกส่วนราชการกลับไปพิจารณาเพิ่มเติมรายละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากสื่อแต่ละประเภทจะมีตัวบทกฎหมายที่บังคับใช้แตกต่างกัน จากนั้นภายใน 2 สัปดาห์

คณะอนุกรรมการจะจัดทำเป็นร่างคำสั่ง

เกี่ยวกับการวางมาตรการและเกณฑ์การปราบปรามสื่อที่กระทำผิดกฎหมายเสนอต่อนายไพบูลย์ ลงนามประกาศใช้แผนการปฏิบัติเกี่ยวกับการปราบปรามสื่อที่กระทำผิดกฎหมายต่อไป

ซึ่งคิดว่าแผนดังกล่าวจะครอบคลุม

และจะแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของสื่อที่ผิดกฎหมายในรูปแบบต่างๆ และในทุกๆที่ได้อย่างรัดกุม เชื่อว่าหากมีมาตรการที่ชัดเจน และเจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง

จะสามารถแก้ปัญหาและขจัดสื่อร้ายในสังคมไทยได้

ส่วนการแสดงที่เข้าข่ายลามกอนาจารนั้น คณะอนุกรรมการฯจะตั้งคณะทำงานพิจารณาว่า การแสดงจะเป็นสีดำ สีเทา หรือสีขาว โดยยึดหลักวัฒนธรรมของสังคมไทย เป็นบรรทัดฐานการตัดสินความถูกผิด และจะเริ่มปฏิบัติตามแผนตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย.เป็นต้นไป



พล.ต.อ.วงกตกล่าวอีกว่า

ส่วนการเอาผิดและปราบปรามการแสดงลามกอนาจารของคณะหมอลำซิ่งนั้น คณะอนุกรรมการฯได้มีหารือกันและประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนหาผู้กระทำผิดต่อไป

ซึ่งในส่วนของการแสดงดังกล่าว

ตนตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเรื่องเฉพาะตัวของผู้แสดงนั้นๆ กับผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ที่จ้างวาน มีโทษปรับ 500 บาท ทั้งนี้ ตามกฎหมายระบุโทษของการจัดทำสื่อลามกอนาจารทุกรูปแบบ

ไม่ว่าจะเป็นการผลิตและเผยแพร่

ด้วยการจำหน่ายจ่ายแจก หรือโอ้อวดประชาชน ส่งผลกระทบต่อสังคม ว่าเป็นการกระทำความผิดในกฎหมายอาญา พ.ร.บ.ควบคุมกิจการเทปวัสดุโทรทัศน์ และลามกอนาจาร

จะมีโทษปรับไม่เกิน 6,000 บาท

และจำคุกไม่เกิน 3 ปี ซึ่งหากทำผิดซ้ำๆ ก็จะไม่มีการรอลงอาญาแน่นอน อย่างไรก็ตาม คิดว่ายังไม่ควรมีการเพิ่มโทษผู้กระทำความผิด เนื่องจากเป็นโทษที่น่าจะพอเพียงอยู่แล้ว

ด้าน พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวถึงการติดตามจับกุมคณะหมอลำซิ่งที่แสดงโชว์เปิดอวัยวะเพศ ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บช.ภ.7 ดำเนินการสืบสวนสอบสวนบริษัทเล็กมิวสิค

เบื้องต้นยังไม่พบหลักฐานการกระทำความผิดที่ชัดเจน

แต่ตำรวจยังไม่เชื่อคำให้การของผู้ประกอบการดังกล่าว และจะสืบสวนสอบสวนให้ได้ตัวผู้กระทำความผิด โดยเฉพาะการสืบสวนหาตัวผู้แสดง ผู้ที่จ้างมาแสดง หรือเจ้าของงาน มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์