หนุ่มวิน จยย.รับจ้าง รักคุดค้อนทุบสาวหม่ายหัวแบะ

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 23 เม.ย. พ.ต.ท.สมยศ คำศรี พงส. (สบ 2) สน.บุคคโล

รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายในร้านเสริมสวยชื่อ

เรื่องของผม เลขที่ 430/6 ซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 22 ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม. จึงรายงาน ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปสอบสวนพร้อม

พล.ต.ต. วรัญวัส การุณยธัช

ผบก.น.8 พ.ต.อ.สาโรจน์ พรหมเจริญ รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.วิศาล พันธุ์มณี ผกก.สน.บุคคโล แพทย์จากโรงพยาบาลศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครจากมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถว 3 ชั้น 1 คูหา

บริเวณประตู เหล็กยืดหน้าร้านถูกล็อกด้วยกุญแจสายยู เจ้าหน้าที่ต้องใช้คีมตัดเข้าไป พบศพนางศิริพร สมอทอง อายุ 38 ปี เจ้าของร้านเสริมสวย นอนหงายเสียชีวิตอยู่ที่หน้าห้องน้ำชั้นล่าง

ในสภาพนุ่งผ้าขนหนูสีชมพูกระโจมอกผืนเดียว

ที่ศีรษะซีกซ้าย ถูกทุบด้วยของแข็งจนกะโหลกแตก มันสมองปนเลือดไหลทะลักออกมากองอยู่กับพื้น บางส่วนยังกระเซ็นติดผนัง เป็นที่น่าสยดสยอง ส่วนที่เกิดเหตุโดยรอบ มีร่องรอยการต่อสู้ ข้าวของกระจัดกระจายเกลื่อนกลาด

บนห้องนอนชั้น 2 พบผู้เสียชีวิตอีก 1 ศพ

ชื่อนายวิทวัฒ คลังระหัด อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 232 หมู่ 4 ต.หัวเมือง อ.สอง จ.แพร่ อาชีพขี่จักรยานยนต์รับจ้าง วินปากซอยคอนแวนต์ ย่านสีลม ใช้เชือกไนลอนสีเขียว ผูกคอตัวเองกับวงกบหน้าต่างในลักษณะนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น

สภาพศพสวมเสื้อกล้ามสีเขียวเข้ม

กางเกงขาสั้นผ้าร่มสีเขียวขี้ม้า ใกล้ๆกันมีค้อนตอกตะปูเปื้อนเลือดวางอยู่บนที่นอนปิกนิก เจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ ด.ช.นนทกานต์ มหาวิหกานนท์ อายุ 13 ปี ลูกชายนางศิริพร ถูกตีด้วย ของแข็งที่ศีรษะบาดเจ็บสาหัส พลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลทหารเรือ เบื้องต้นอาการปลอดภัย

สอบสวน น.ส.อนุสรา เนียนเส็ง อายุ 18 ปี

ลูกจ้างนางศิริพรผู้ตาย ทราบว่า ขณะกำลังเข้าร้านทำงานตามปกติ ช่วง 8 โมงเช้าได้ยินเสียงนางศิริพรตะโกนขอความช่วยเหลือดังมาจากข้างใน และค่อยๆเงียบเสียงไป ตนและเพื่อนบ้านพยายามเข้าไปช่วย

แต่ประตูถูกล็อกจากด้านในเข้าไม่ได้

จึงแจ้งตำรวจให้มาช่วยเหลือ ขณะเดียวกัน ด.ช.นนทกานต์ลูกชายนางศิริพร ปีนหนีออกมาจากช่องลมหลังบ้าน ในสภาพเลือดท่วมตัว ร้องขอให้เข้าไปช่วยแม่ที่กำลังถูกทำร้าย

แต่ไม่มีใครสามารถเข้า ไปได้

ตนจึงรีบนำ ด.ช.นนทกานต์ ซึ่งมีบาดแผลที่ศีรษะส่งโรงพยาบาลไปก่อน มาทราบภายหลังว่า นางศิริพรเสียชีวิตไปแล้วพร้อมกับนายวิทวัฒ

น.ส.อนุสราให้การอีกว่า

นางศิริพรมีสามีชื่อนายเม้ง ทำสวนผักอยู่ที่ จ.ราชบุรี ทั้งคู่มีลูกชาย 1 คน คือ ด.ช.นนทกานต์ นานๆครั้ง นายเม้งถึงจะกลับมาเยี่ยม ส่วนนายวิทวัฒผู้ตายอีกคน เป็นที่รู้กันว่าหลงรักนางศิริพรชนิดหัวปักหัวปำ

ทั้งๆที่รู้ว่าฝ่ายหญิงมีครอบครัวแล้ว

โดยทั้งคู่รู้จักกัน เพราะเคยพักอยู่อพาร์ตเมนต์แห่งเดียวกันตั้งแต่ปีที่แล้ว ต่อมานางศิริพรได้ย้ายมาเช่าตึกแถวที่เกิดเหตุ เปิดเป็นร้านเสริมสวย และใช้เป็นที่พัก แต่นายวิทวัฒยังตามมาอยู่ด้วย โดยขอช่วยจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ช่วยซักผ้าขนหนูที่ใช้ในการเสริมสวย และนอนพักอยู่ที่หน้าห้องนอนของนางศิริพรและลูกชายบนชั้น 2

ส่วนชนวนที่ทำให้เกิดเหตุสยองครั้งนี้

น.ส.อนุสราให้การว่า ช่วงหลังสงกรานต์ที่ผ่านมา นายเม้งได้กลับมาเยี่ยมลูกเมีย และพักอยู่ด้วยกันทั้งอาทิตย์ เพิ่งกลับไปเมื่อวันเสาร์ที่ 21 เม.ย. โดยตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันเกือบอาทิตย์ ทั้ง 3 คนพ่อแม่ลูกได้ถ่ายภาพร่วมกัน

โอบกอดกันด้วยความคิดถึง

สร้างความไม่พอใจให้กับนายวิทวัฒที่เห็นภาพบาดใจ ทันทีที่นายเม้งเดินทางกลับ ทั้งคู่มีปากเสียงกันถึงขั้นนางศิริพรมาเล่าให้ฟังเมื่อช่วงวันอาทิตย์ว่าอยากให้นายวิทวัฒย้ายไปอยู่ที่อื่น โดยวันนั้นตนอยู่จน 3 ทุ่ม ร้านปิดถึงกลับบ้าน จนเช้าวันนี้มาทำงานตามปกติ พบว่ามีเรื่องร้ายเกิดขึ้นแล้ว

ด้านพนักงานสอบสวนสันนิษฐาน

หลังตรวจที่เกิดเหตุและสอบปากคำพยานว่า ขณะที่นางศิริพรตื่นลงมาอาบน้ำ เกิดมีปากเสียงกับนายวิทวัฒเกี่ยวกับเรื่องหึงหวงอีกรอบ ที่หน้าห้องน้ำชั้นล่าง นายวิทวัฒอาจควบคุมอารมณ์ไม่อยู่

ใช้ค้อนกระหน่ำตีศีรษะนางศิริพรจนเสียชีวิต

ระหว่าง นั้น ด.ช.นนทกานต์เห็นเหตุการณ์เข้าไปช่วยแม่ เลยถูกทุบศีรษะเจ็บไปอีกคน ก่อนที่นายวิทวัฒจะใช้เชือกไนลอน ผู้คอตายหนีความผิด อย่างไรก็ตาม สำหรับศพของทั้งคู่ เจ้าหน้าที่นำส่งสถาบันนิติเวชฯ ผ่าชันสูตรตามขั้นตอนอีกครั้ง ก่อนให้ญาติรับศพนำกลับไปดำเนินการตามพิธีต่อไป

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ