รวบหนุ่มคลั่งขู่เผาบ้านจับแฟนสาวเป็นตัวประกัน

หนุ่มวัย 28 ปี ถูกญาติแฟนด่าทอ เครียดจัด จับแฟนสาวเป็นตัวประกัน พร้อมจุดไฟเผาบ้าน เจ้าหน้าที่ฉีดน้ำสกัด ก่อนพังประตูเข้าไปช่วยได้สำเร็จ

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ร.ต.อ.อนุสรณ์ เนียมแก้ว ร้อยเวร สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ว่าช่วง 22.30 น.ของวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งมีเหตุทำร้ายร่างกาย และจับกุมหญิงสาวเป็นตัวประกัน เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 44/229 หมู่ที่ 8 หมู่บ้านเพทาย ซอย 21 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมด้วยกำลังชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่มไทรลำลูกกา และรถดับเพลิงเทศบาลเมืองลาดสวาย

ในที่เกิดเหตุ เป็นทาวส์เฮ้าส์ 2 ชั้นปลูกติดกัน จากการตรวจสอบพบบริเวณประตูทางเข้าบ้านปิดใส่ลูกบิดล๊อคจากด้านใน

มีเสียงร้องรอความช่วยเหลือของหญิงสาวออกมาจากด้านใน ด้วยความเจ็บปวด และมีเสียงทำร้ายร่างกาย เร็ดรอดออกมาทางช่องหน้าต่าง ภายในบ้านชั้นล่างพบ นายประกอบ เหลาสา อายุ 28 ปี ชาวกรุงเทพฯ กำลังล็อคคอแฟนสาว ทราบชื่อต่อมา น.ส.ลำดวน จานนอน อายุ 34 ปี เจ้าของบ้านด้วยอาการคลุ้มคลั่ง

ฝ่ายเจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อมแต่ไม่ได้ผล นายประกอบ ยกถังแก๊สหุงต้มเข้ามาภายในห้อง

พร้อมขู่ไม่ให้ผู้ใดเข้าใกล้และได้เปิดวาล์วถังแก๊สเป็นระยะ ทางเจ้าหน้าที่เร่งประสานรถดับเพลิงของเทศบาลเมืองลาดสวาย มาเตรียมความพร้อม จนกระทั่งนายประกอบ ตัดสินใจใช้ไฟแช็คเผาโซฟาจนไฟลุกโชน เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจใช้น้ำฉีด เพื่อสกัดเพลิงพร้อมกับทำลายประตูเข้าไปช่วยเหลือหญิงสาวดังกล่าว ได้อย่างปลอดภัย

ภายหลัง น.ส.ลำดวน ผู้เสียหายและเป็นแฟนสาวนายประกอบ ให้การว่า ตนเองและแฟนหนุ่มเพิ่งคบกันได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น

โดยก่อนหน้านี้ ได้กลับจากเที่ยวห้างด้วยกัน แล้วเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง กระทั่งญาติพี่น้องพยายามเข้ามาห้ามปราม แต่นายประกอบ กลับด่าทออย่างรุนแรงเช่นกัน จนกระทั่งมีปากเสียงกันอย่างหนักถึงขั้นลงไม้ลงมือ ยกถังแก๊สมากลางบ้านขู่จะเผาบ้านหากขัดขืน ก่อนลงมือทุบตีอีกหลายครั้ง จนญาติทนไม่ไหวแจ้งตำรวจมาจับกุมดังกล่าว

จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายประกอบ ผู้ต้องหา เคยต้องโทษคดีร่วมกันลักทรัพย์ในพื้นที่ สภ.คูคต เมื่อปี พ.ศ.2553 ที่ผ่านมาและเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อปี พ.ศ. 2555 ทางเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา หน่วงเหนี่ยวกักขัง หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย วางเพลิงเผาทรัพย์โรงเรือน นำตัวไปดำเนินคดีทางกฏหมายต่อไป.