แม่พันเอกวิทวัส นำเงินคืนหลวงปู่

แม่พันเอกวิทวัส นำเงินคืนหลวงปู่

มารดา "พ.อ.วิทวัส" หอบเงินครึ่งแสนส่งผ่านตำรวจ คืน "พุทธอิสระ" วอนกปปส.ส่งการ์ดโหด มาดำเนินคดีตามกฎหมาย จวกกรรมการสิทธิฯ นิ่งเฉยไม่ช่วยชาวบ้าน ทั้งที่โดนยิงหลายราย

จากกรณีพ.อ.วิทวัส  วัฒนกุล รองผอ.กองวิเทศสัมพันธ์สำนักวิเทศสัมพันธ์  กรมข่าวทหารกองบัญชาการกองทัพไทย

เเละเป็นน้องชายของ พ.ต.อ.ธนวัตร วัฒนกุล ผกก.สน.โชคชัย ถูกการ์ดกปปส.รุมยิงเเละทำร้ายร่างกาย ขณะเดินทางกลับที่พัก เมื่อกลางดึกวันที่ 25เมษายนตามที่เสนอข่าวไปเเล้วนั้น ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ที่ สน.ทุ่งสองห้อง นางบังอรรัตน์  วัฒนกุล มารดา พ.อ.วิทวัส วัฒนกุลรองผอ.กองวิเทศสัมพันธ์ สำนักวิเทศสัมพันธ์ กรมข่าวทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อม นางจามาร ศรีเทียนชวลิต น้าสาว น.ท.ณัฐพล วัฒนกุล รน.น้องชาย และนายชุมพล เกริกศิลป์ ทนายความ เข้าพบ ร.ต.ท.วีระศักดิ์ ทองบ่อ พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อลงบันทึกประจำวัน เเละมอบเงินจำนวน 50,000 บาทคืนให้กับทางกลุ่มผู้ชุมนุมกปปส. เวทีเเจ้งวัฒนะ

โดย นางบังอรรัตน์ วัฒนกุล ได้เปิดเผยว่า ที่มาในวันนี้เพื่อมาขอให้ตำรวจนำเงินจำนวน 50,000บาท

ซึ่งเป็นค่ารักษาพยาบาลที่ได้รับมา นำส่งคืน "หลวงปู่พุทธอิสระ" แกนนำ กปปส. พร้อมชี้แจงว่า ตนเองเเละพ.อ.วิทวัสไม่เคยให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่ลูกชายถูกทำร้ายผ่าน สื่อใดมาก่อน เเม้จะมีหลายสื่อพยายามขอสัมภาษณ์มาโดยตลอดเเต่ตนก็เลือกที่จะเงียบ ไม่เคยออกมาพูดหรือให้สัมภาษณ์ใด ๆ เเต่ครั้งนี้ตนทนไม่ไหวเเล้วจริง ๆ เนื่องจากข่าวเริ่มจะไปไกลเกินความจริงออกไปทุกที  จึงตัดสินใจออกมา ในฐานะคนเป็นเเม่ที่ออกมาปกป้องลูก

นางบังอรรัตน์ กล่าวต่อไปว่า ขอยืนยันว่าครอบครัวไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองเเต่อย่างใด

เเต่เพราะคนถูกกระทำเป็นลูกของตนเอง ซึ่งไม่มีโอกาสต่อสู้ใด ๆ เลย พ.อ.วิทวัส เป็นทหารถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส เเต่กลับมีข่าวออกมาว่าพ.อ.วิทวัสดื่มสุรา เเละ มีอาการมึนเมา จากนั้นปัสสาวะรดบังเกอร์ เเละขับรถเฉี่ยวชน ซึ่งตนขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงเเต่อย่างใด ตนเชื่อมั่นในตัวลูกชายเเละเกียรติยศการเป็นทหารว่า ไม่มีทางทำตัวเช่นนั้นเเน่นอน

นางบังอรรัตน์ กล่าวอีกว่า จากการสอบถาม พ.อ.วิทวัส ว่า เหตุใดจึงต้องขับรถไปเส้นทางดังกล่าว

ก็ได้รับคำตอบว่า เป็นทางผ่านเพื่อกลับบ้าน ซึ่งปกติในเวลากลางวัน พ.อ.วิทวัสจะอยู่เเต่ในที่ทำงาน เเละ 17.00 น. เลิกงาน จึงกลับบ้านพัก เเต่ในวันเเละเวลาดังกล่าวนั้น พ.อ.กลับบ้านพักผิดเวลา เนื่องจากไปทำธุระ จึงไม่ทราบว่า พื้นที่ดังกล่าวผู้ชุมนุมได้ตั้งกรวยขวางไว้ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ พบว่ามีกรวยยางกั้นพื้นที่พ.อ.วิทวัสจึงลงจากรถเพื่อเลื่อนออก แต่กลับได้ยินเสียงคล้ายประทัดซึ่งตอนเเรกพ.อ.วิทวัสยังไม่เชื่อว่าตนเองถูก ยิง

จนกระทั่งรู้สึกเจ็บที่ขาจึงทราบว่าถูกยิงแล้ว เเละพยายามยกมือพร้อมตะโกนบอกว่าเป็นทหาร

ก่อนวิ่งไปหลบหลังพุ่มไม้แต่ก็ถูกลากตัวไปยังใต้ถุนอาคารจอดรถ ก่อนจะใช้ของเเข็งฟาดเข้าที่ต้นคอด้านหลัง จากนั้นก็รุมกระทืบ จนทำให้เส้นโลหิตแตกอาการสาหัส ต่อมาการ์ด กปปส. ได้รื้อค้นรถยนต์ของ พ.อ.วิทวัส และไปเห็นบัตรทหาร จึงตะโกนบอกเพื่อนให้หยุดทำร้ายและรีบนำตัวส่งรพ.มงกุฎวัฒนะ พร้อมนำรถมาจอดไว้ที่รพ.เช่นเดียวกัน

นางบังอรรัตน์  กล่าวว่า ขณะนี้อาการของ พ.อ.วิทวัส ดีขึ้นตามลำดับ

เเต่ยังพักฟื้นรักษาตัวอยู่ เเละ ตนไม่ได้ต้องการอะไรมากเเต่เเค่อยากขอความเป็นธรรม ให้หลวงปู่พุทธอิสระ อย่าช่วยปกปิดคนกระทำความผิด ให้ส่งตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย และขอเรียกร้องให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนออกมาช่วยเหลือประชาชนผู้เสียหายด้วย นอกจากนี้ ตนทราบว่ากล้องวงจรปิด บริเวณที่เกิดเหตุได้หายไปหลังเกิดเหตุจำนวนหลายตัว ดังนั้นตนขอบิณฑบาตร หลวงปู่พระพุทธอิสระ ให้ย้ายเวทีชุมนุมไปที่อื่น เนื่องจากบริเวณดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อยู่อาศัยบริเวณถนนแจ้ง วัฒนะเป็นอย่างมาก

"พ.อ.วิทวัสเขายืนยันกับเเม่ว่า เขาไม่รู้จริง ๆ ว่า ที่ตรงนั้นอันตรายขนาดนี้ ถ้ารู้เขาก็คงไม่เข้าไปเเน่นอน เเล้วคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนทำไมไม่ออกมาช่วยเหลือเลย ทั้งๆที่ในพื้นที่แจ้งวัฒนะมีคนต้องเจอเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้หลายคน แล้ว บางรายยังนอนไม่ได้สติอยู่เลย ขอฝากไปถึงการ์ดกปปส.เเจ้งวัฒนะทุกคนว่า อย่าทำร้ายคนอื่นอีกเลย เพราะจะเป็นเวรกรรมติดตัวไป บาปกรรมมีจริง ใครทำอะไรไว้ย่อมรู้ สำหรับเเม่อโหสิกรรมให้เเล้ว เเต่กฎหมายก็ต้องเป็นกฎหมายต่อไป คนชั่วจะลอยนวลอยู่ในบ้านเมืองไม่ได้ ส่วนที่การ์ดไปขอขมาผู้บังคับยัญชาของลูกชายนั้น ตนทราบเเล้วเเต่การขอขมาเป็นวัฒนธรรมการขอโทษของไทย ซึ่งตนก็ขอยืนยันให้คนผิดมารับโทษตามกฎหมาย เเละขอขอบคุณการ์ดที่เพียงเเค่รุมทำร้ายลูกชายไม่ได้ฆ่าเเล้วโยนทิ้งเเม่น้ำ ขอบคุณมาก ๆ " นางบังอรรัตน์กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับการชุมนุมที่ เวที กปปส.แจ้งวัฒนะ ยังมีการปิดการจราจรอยู่ ซึ่งรถที่ที่จะสัญจรผ่านในจุดดังกล่าวจะต้องเข้าไปเส้นทางเลี่ยงในศูนย์ ราชการแจ้งวัฒนะโดยพื้นที่ทางเข้าออกที่ชุมนุมนั้น ก็ยังมีการ์ดของ กปปส.ตรวจตราและเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยตามปกติ


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์