วิญญาณเฮี้ยนตามหลอนหนุ่มใหญ่ฆ่าเมียทิ้งน้ำ

วิญญาณแม่ม่ายเฮี้ยน ถูกผัวใหม่ ทุบดับก่อนโยนทิ้งน้ำอำพรางคดี เฮี้ยนจัดตามหลอนผัวโหด จนอยู่ไม่เป็นสุข เตรียมโร่เข้ามอบตัว แต่ถูกตำรวจตามรวบได้ก่อน

เมื่อวันที่ 20 เม.ย. พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สส. 2 บก.สส.ภ.4 พ.ต.ท.จีระวัฒน์ โพธินา รอง ผกก.สส.2

แถลงจับกุม นายสมบท มามุข อายุ 68 ปี ชาวขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นที่ มจ.106/ 57 ลงวันที่ 17 เม.ย. 57 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งพบศพ หญิงสาวเสียชีวิต อยู่ภายในสระน้ำสาธารณะ ใกล้วัดสันติการามบ้านโคกไร่ ต.สงเปือย จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.4 และชุดสืบสวน สภ.ภูเวียง ที่เกิดเหตุพบศพนางอ่อนดอน กันหา อายุ 67 ปี ตรวจสอบพบศีรษะถูกตีด้วยไม้หน้าสามเป็นแผลฉกรรจ์ เจ้าหน้าที่จึงส่งศพให้แพทย์นิติเวช ผ่าชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง พร้อมลงพื้นที่สืบสวนจนทราบว่า ผู้ตายถูกนายสมทบ สามีใหม่ ซึ่งอยู่กินกันมา 2-3 ปี ใช้ไม้หน้าสามตีเข้าที่ศีรษะ และร่างกายจนเสียชีวิตก่อนโยนศพทิ้งน้ำ แล้วหลบหนีไปกลับไปกบดานบ้านญาติ ในอ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น

หลังทราบข้อมูลเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนเสนอศาลอนุมัติ ก่อนติดตามไปจับกุม

พบนายสมบทกำลังนั่งปรึกษากับ ญาติ เรื่องตนเองก่อเหตุฆ่าผู้ตายอย่างโหดเหี้ยม ก่อนหลบหนีความผิดมาอยู่กับญาติ แต่ไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างปกติสุขได้เนื่องจากกลางวันต้องคอยหลบซ่อนเจ้า หน้าที่ แต่ช่วงกลางคืนทุกครั้งที่เข้านอนวิญญาณของผู้ตายมาเข้าฝันพร้อมบังคับ ให้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนทนแทบไม่ไหวเตรียมปรึกษาญาตืเพื่อติดต่อขอเข้ามอบตัวสู็คดีกับเจ้าหน้าที่ ตำรวจ แต่มาถูกติดตามจับกุมได้เสียก่อน สอบสวนเบื้องต้น นายสมทบ รับสารภาพว่า เคยอยู่กินกับภรรยาคนแรกและมีบุตรด้วยกัน 5 คน กระทั่งเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมาภรรยาเสียชีวิตลงส่วนลูกๆก็แยกย้ายกันเข้าไปหางานทำใน กทม.ตนจึงอยู่บ้านเพียงคนเดียวมาครึ่งปี กระทั่งพบผู้ตายซึ่งตกพุ่มหม้ายเนื่องจากสามีประสบอุบัติเหตุ จึงคบหาพูดคุยกันจนเกดิดความเห็นอกเห็นใจกัน จึงตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน แบบลับๆคือตนนอนบ้านของตนเอง และนางอ่อนนอนบ้านของนางอ่อน แต่จะไปมาหาสู่กันบ่อยๆ แต่นางอ่อนมักจะด่าว่าตนแบบเสียๆหายๆ บ่อยครั้งบางครั้งจนถึงบุพการี

นายสมทบ ให้การว่า วันเกิดเหตุได้ทะเลาะมีปากเสียงกับนางอ่อนอย่างรุนแรง ทำให้ตนโมโหจนลืมตัว คว้าไม้หน้าสามยาวเมตรกว่า

ตีเข้าที่ศีรษะของนางอ่อนอย่างแรงถึง2 ครั้งจนเสียชีวิตแล้วจึงอุ้มศพนางอ่อนไปทิ้งลงสระน้ำของหมู่บ้านจากนั้นกลับ เข้าบ้านพักเปลี่ยนเสื้อผ้าหลบหนีโดยระหว่างหลบหนีได้เผาเสื้อผ้าที่สวมใส่ ขณะก่อเหตุฆ่านางอ่อนแล้วทิ้งกลางทุ่งนาพร้อมกับไม้หน้าสามไปด้วย แล้วขึ้นรถโดยสาร เดินทางไปหลบซ่อนตัวอยู่ในอ.ภูกระดึง จ.เลย ก่อนจะย้อนกลับมาหลบซ่อนตัวที่บ้านญาติใน อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ช่วงที่หลบหนีได้มีวิญญาณนางอ่อนมาเข้าฝันตลอดทุกคืนพร้อมกับให้ตนได้เข้า มอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้ายังหลบหนีก็จะมาเข้าฝันตนตลอดไปตนจึงได้มาติดต่อกับญาติที่ อ.ชุมแพเพื่อขอปรึกษาเข้ามอบตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มาจับกุมตนได้ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงวควบคุมตัวส่ง พนักงานสอบสวนสภ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น และทำแผนประกอบคำรับสารภาพเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.