หญิงชราป่วยโรคซึมเศร้าเรื้อรังกระโดดสะพายลอยดับ

หญิงชราป่วยโรคซึมเศร้าเรื้อรังกระโดดสะพายลอยดับ

หญิงชราป่วยโรคซึมเศร้าเรื้อรังกระโดดสะพายลอยดับ เผยเจ้าตัวเคยคิดสั้นมาแล้วหนหนึ่งแต่ไม่สำเร็จ

เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 11 เม.ย. ร.ต.ท.เชิดชัย ศรีประเสริฐ พนักงานสอบสวน สน.บางมด รับแจ้งมีหญิงสูงอายุกระโดดจากสะพานลอยลงมาเสียชีวิตบริเวณ ถ.พระราม 2 ใกล้ปากซอยที่ 5 แขวงบางมด เขตจอมทอง กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาแล้วรุดตรวจสอบพร้อมด้วย แพทย์เวร รพ.ศิริราช และมูลนิธิกู้ภัยร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุบริเวณใต้สะพานลอยคนข้ามถนน พบศพ นางหั่งยิ่ว แซ่หยิ่น อายุ 82 ปี
 
อยู่บ้านเลขที่ 52/63 ซ.พระราม 2 ที่ 5 ถ.พระราม 2 แขวงบางมดเขตจอมทอง กทม. สภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อลายดอกสีแดง-ขาว สวมกางเกงขาสามส่วนสีกรมท่า ไม่สวมรองเท้า นอนจมกองเลือด กระโหลกศีรษะแตกเลือดสมองไหลนองเต็มพื้นถนน ขาด้านขวาหักผิดรูป และยังมีเลือดไหลออกจากปากของผู้ตายเป็นระยะ ๆ

จากการสอบสวน น.ส.จันทร์เพ็ญ อินเดช อายุ 25 ปี พนักงานร้านแฟมิลี่มาร์ท ผู้อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า

ขณะที่ตนปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในร้านนั้นได้มีคนขับรถแท็กซี่วิ่งมาบอกว่ามีคนตกลงจากสะพานลอยให้ช่วยโทรศัพท์แจ้งตำรวจด้วย ตนและเพื่อนจึงรีบโทรฯ แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยทันทีเพื่อจะให้รีบมาตรวจสอบเหตุโดยเร็ว

ขณะที่นายสมชาย ศรีประไพพงศ์ศาล อายุ 41 ปี หลานชายของผู้ตาย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยเข้ารับการรักษาตัวที่รพ.สมเด็จเจ้าพระยา
 
เนื่องจากป่วยเป็นโรคอาการซึมเศร้า และเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ผู้ตายเคยคิดจะฆ่าตัวตายมาแล้วครั้งหนึ่งด้วยโรคดังกล่าวแต่ไม่สำเร็จ และหลังจากนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะคิดฆ่าตัวตายอีก ซึ่งญาติได้ไว้วางใจให้ผู้ตายเดินไปไหนมาไหนตามลำพังเพราะคิดว่าคนละแวกที่เกิดเหตุนั้นส่วนมากจะรู้จักผู้ตาย จึงไม่คิดว่าจะเกิดอันตรายอะไรขึ้นกับผู้ตาย กระทั่งเวลาประมาณ 02.15 น. มีคนมาเคาะประตูเรียกที่บ้านว่าผู้ตายได้กระโดดลงจากสะพานลอย ตนจึงรีบวิ่งมาดูส่วนสาเหตุตนคิดว่าที่ผู้ตายตัดสินใจกระโดดลงจากสะพานลอยน่าจะมาจากการผู้ตายไม่สบายด้านโรคซึมเศร้าด้วยและไม่สบายโดยร้อนในร่างกายด้วย โดยไปหาหมอกี่ครั้งก็ไม่หายจึงทำให้ผู้ตายคิดสั้นดังกล่าว

ด้าน ร.ต.ท.เชิดชัย กล่าวว่า หลังจากนี้ได้มอบให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำศพส่งให้แพทย์ รพ.ศิริราช เพื่อทำการผ่าพิสูจน์ศพอีกครั้งจากนั้นจะนำศพส่งให้กับญาติเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป




เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์