เจอแล้วศพเหยื่อน้ำตกซัดรายที่ 38

จากโศกนาฏกรรมสลดช่วงเทศกาลสงกรานต์ เมื่อบ่ายวันที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดซัดถล่มลงมากับน้ำตกชื่อดัง 3 แห่งของ จ.ตรัง

ประกอบด้วย น้ำตกสายรุ้ง ต.นาชุมเห็ด อ.ย่านตาขาว

น้ำตกไพรสวรรค์ ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว และน้ำตกลำปลอก ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน คร่าชีวิตนักท่องเที่ยว 37 ศพ บาดเจ็บ 29 คน และยังมีผู้สูญหายอีก 1 คนคือนางยุวดา ชูศรีรักษ์ อายุ 30 ปี

ที่ถูกน้ำป่าซัดร่างหายไปที่น้ำตกไพรสวรรค์

จนท.กู้ภัยระดมกำลังค้นหาอยู่นานถึง 3 วันในที่สุดก็พบศพแล้ว รวมยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 38 ศพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 17 เม.ย.

หน่วยกู้ภัยทีมค้นหาศพนางยุวดาที่สูญหายบริเวณน้ำตกไพรสวรรค์ ยังดำเนินการค้นหาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันได้มีร่างทรงมานั่งทางในช่วยค้นหาก็ยังไม่พบศพ กระทั่งเที่ยงชาวบ้านได้นิมนต์พระพ่อท่านแปลก อายุ 72 ปี เกจิ

อาจารย์ชื่อดังจากวัดปากปรน กิ่ง อ.หาดสำราญ

ที่มีลูกศิษย์ ลูกหามากมายนับถือในความเก่งกล้าคาถาอาคม มานั่งทางในเพ่งสมาธิค้นหาบนก้อนหินริมน้ำตก ขณะทำพิธีก็ชี้ไปหลายจุดว่าศพอยู่ตรงนั้นตรงนี้ บรรดาเจ้าหน้าที่ทีมค้นหาก็กระจายกำลังกันไปตามจุดต่างๆ ก็คว้าน้ำเหลวไม่เจอศพ จนต้องเลิกพิธีเมื่อเวลา 15.00 น.

ขณะที่ทีมกู้ภัยใกล้จะหมดความพยายามในการค้นหา

กระทั่งเวลา 16.00 น. ได้รับแจ้งจากชาวบ้านโคกทราย หมู่ 4 ต.โพรงจระเข้ ว่า เห็นแมลงวันบินว่อนที่ป่าต้นเลา ริมคลองหลังโรงเรียนบ้านโคกทราย ห่างจากน้ำตกที่เกิดเหตุไปประมาณ 3 กิโลเมตร จึงนำกำลังไปตรวจสอบ

ปรากฏว่าพบศพนางยุวดา ชูศรีรักษ์ เหยื่อน้ำตกมรณะรายสุดท้าย

ศพที่ 38 สภาพนอนคว่ำหน้าขึ้นอืดเน่าเฟะอยู่ในพงหญ้าป่าเลาห่างจากคลองประมาณ 10 เมตร ท่อนล่างสวมกางเกงขาสามส่วน ท่อนบนมียกทรงตัวเดียวส่วนเสื้อหลุดหายไป ในกระเป๋ามีเงิน 500 บาท ที่นิ้วมือ มีแหวนทอง 2 วง

เป็นแหวนนามสกุล 1 วง ต่อมา พ.ต.อ. สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ

ผกก.สภ.อ.ย่านตาขาว สั่งการให้ พ.ต.ต.ปัญจวิทย์ เกื้อกอบ สารวัตรเวรเจ้าของคดี พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.ย่านตาขาว ไปร่วมชันสูตรพลิกศพ จากนั้นมอบให้ญาติรับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

นายอานนท์ มนัสวานิช ผวจ.ตรัง เปิดเผยว่า

ได้เข้าเฝ้าพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก พระองค์ประทานรูปแบบของสัญญาณเตือนภัยบริเวณน้ำตกมาให้

พร้อมรับสั่งให้ตนประสานกับกรมอุทยานฯ

เพื่อจะนำรูปแบบดังกล่าวไปใช้ติดตั้งใช้ที่ จ.ตรัง แห่งแรก นอกจากนี้ทรงให้มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก มอบเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวผู้ประสบภัยด้วย

ผวจ.ตรังกล่าวเพิ่มเติมว่า

หลังจากพบศพผู้เสียชีวิตรายสุดท้ายแล้ว ก็จะยุติการค้นหาทั้งหมดเพราะไม่มีการแจ้งผู้สูญหายเพิ่ม ส่วนจะเปิดน้ำตกทั้ง 3 แห่งให้นักท่องเที่ยวเข้าชมตามปกติได้เมื่อไหร่นั้น คงเป็นหน้าที่ของทางกรมอุทยานฯที่จะพิจารณา

สำหรับการ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยนั้น

ได้ทำตามระเบียบของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แต่ขั้นตอนการเบิกเงินของราชการล่าช้า ต้องใช้เวลาประมาณ 3 วันถึงจะเบิกจ่ายได้ คิดว่าไม่ทันจึงทำเรื่องขอยืมเงินของเหล่ากาชาด จ.ตรัง มาก่อน 8 แสนบาท

เพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตไปก่อน

ส่วนผู้บาดเจ็บนั้นก็มีระเบียบการช่วยเหลืออยู่แล้ว ได้มอบหมายให้นายสันติ์ จันทวงศ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด รับไปดำเนินการ

ด้านนายสมาน โอภาสวงศ์ รักษาการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

เปิดเผยว่า ทางมูลนิธิฯจะให้ความช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิต โดยมอบเงินค่าฌาปนกิจศพละ 5,000 บาท และมูลนิธิสงเคราะห์ผู้ประสบภัย 14 จังหวัดภาคใต้ มอบสมทบศพละ 3,000 บาท

โดยจะนำไปมอบให้ที่มูลนิธิบ้วนเต็กกุศลสถาน

ตรัง ในวันที่ 23 เม.ย.นี้ ขอให้ญาตินำหลักฐานมรณบัตรและบัตรประชาชนของผู้รับเงินมาด้วย

เย็นวันที่ 17 เม.ย. กรมอุตุวิทยารายงานว่า

ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นแผ่ปกคลุมประเทศจีนตอนใต้แล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมทะเลจีนใต้และด้านตะวันออกของไทยช่วงวันที่ 18-19 เม.ย.นี้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนหลายพื้นที่

ลักษณะเช่นนี้จะทำให้เกิดพายุฤดูร้อน

โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดตาก แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ และอาจมีลูกเห็บตกลงมาในบางพื้นที่ จะเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน

ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย สกลนคร อุดรธานี

นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากสภาวะอากาศที่แปรปรวนในระยะนี้ด้วย

ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ 40

ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ทะเลมีคลื่นสูง 2 เมตรทั้ง 2 ฝั่งทะเล

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ