แฉแก๊งคนมีสีวางบึ้ม ปชป. ชิดชัยขอเวลา ตร. ชวนกรีดทักษัณ

ชวน หลีกภัย ลงมีดกรีดนายกฯ หากคิดมีคนสร้างเรื่องบึ้มหน้า ปชป.ให้เอาคนๆนั้นมารับผิด ไม่ใช่พูดปัดความรับผิดชอบขณะที่อภิสิทธิ์ชี้คนอยู่ฝั่งตรงบ้ามรัฐช่วงนี้ถูกคุกคามทุกรูปแบบยุให้ใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค ส่วนเด็กทรท. สวนกลับเทพเทือก โยงเรื่องบึ้มกับปัญหาทุจริตเลือกตั้ง ไม่สมควรทำ ตั้งข้องสงสัยคนนอกไม่น่าจะรู้จุดยุทธศาสตร์สั่นคลอนภายใน ปชป. ด้าน สุรนันทน์ หวังทุกฝ่ายจับมือสมานฉันท์กำจัดช่องทางมือที่สามป่วน ส่วนชิดชัย ขอเวลาให้ตำรวจทำงาน ขณะที่ตำรวจนครบาลเร่งหาคนลอบวางระเบิด เชื่อเป็นแก๊งมีสีชำนาญด้านนี้โดยเฉพาะ แต่ยังมึนไม่รู้จะจับมือใครดม

จากกรณีคนร้ายลักลอบนำระเบิดทีเอ็น ทีหนักเกือบ 1 ปอนด์ ไปวางไว้ในที่ทำการ พรรคประชาธิปัตย์ ถนนพระรามที่ 6 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท ซึ่งใกล้กับห้องทำงานของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค โดยมีการตั้งเวลาให้ระเบิดช่วง 10.50 น. แต่โชคดีมีคนมาเห็นก่อนแล้วรีบแจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบพร้อมเก็บกู้ได้ทันเวลา เบื้องต้นแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่าเป็นฝีมือพวกไม่หวังดีและเกิดจากปัญหาการแฉเรื่องทุจริตการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ฝ่ายรัฐบาลได้ให้ความคิดเห็นว่าน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์มากกว่าหวังก่อเหตุร้าย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เบาะแสคนร้ายที่นำระเบิดมาวางนั้นขี่รถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีฟ้า เข้ามาก่อนขี่กลับออกไปอย่างรวดเร็ว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ยุติธรรม กล่าวหลังการ ประชุมครม.ว่า เหตุวางระเบิดกำลังให้ฝ่ายมั่น คงดูอยู่ ขณะนี้ยังบอกอะไรไม่ได้ เจ้าหน้าที่กำลังทำอย่างเต็มที่แต่คดีมีความยากง่าย ต้องขอให้เห็นใจตำรวจด้วย เบื้องต้นน่าเชื่อว่าเป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ส่วนการล่าตัวคนร้ายต้องสอบถามจาก ผบช.น. ตำรวจกำลังพยายามทำที่สุดแล้ว สำหรับความคืบหน้าเหตุวางระเบิดที่หน้าป้อมยามบ้าน สี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษนั้นกำลังรอการตรวจพิสูจน์อยู่

นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลยืนยันว่ายึดแนวทางสันติวิธี และทุกฝ่ายก็ควรจะยึดแนวทางสันติวิธีเช่นกัน ไม่ควรที่จะมีผู้สร้างสถานการณ์หรือเป็นมือที่สามเข้ามาก่อความวุ่นวาย ขณะเดียว กันรัฐบาลอดทนต่อการยั่วยุเป็นอย่างมาก ฝ่ายค้านและฝ่ายอื่น ๆ ต้องช่วยกันระมัดระวัง รัฐยึดกฎหมายของบ้านเมือง ใครกระทำผิดก็ต้องถูก ดำเนินคดี รัฐจะเร่งจับกุมหาตัวคนผิดให้เร็วที่สุด เมื่อถามว่ารัฐบาลรู้สึกหนักใจหรือไม่เพราะฝ่ายค้านระบุว่าถูกคุกคาม นายสุรนันทน์กล่าวว่า รัฐบาลไม่คุกคามใคร และจะเห็นได้ว่าทุกวันนี้รัฐบาลถูกคุกคามมากกว่าด้วยซ้ำ ตอนนี้ถ้าทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันและสร้างสมานฉันท์จะทำให้ช่องว่างที่จะทำให้มือที่สามเข้ามาสร้างความเข้าใจผิดน้อยลง

ที่พรรคไทยรักไทย น.ต.ศิธา ทิวารี โฆษกพรรคฯ กล่าวตอบโต้กรณีนายสุเทพระบุ ว่า เหตุลอบวางระเบิดหน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์มีสาเหตุจากการไปเปิดโปงกระบวนการทุจริตการเลือกตั้งของพรรคการใหญ่ ว่า ถ้าเหตุผลเป็นอย่างที่นายสุเทพระบุก็คงหมายถึงพรรคไทยรักไทย ซึ่งคำพูดเช่นนี้ถือว่าเป็นเรื่องชิงความได้เปรียบทางการเมืองจากสถานการณ์ที่เลวร้าย จึงไม่ควรทำอย่างยิ่ง ตนยืนยันว่าพรรคไม่สนับสนุนและไม่เห็นด้วยกับความรุนแรงเพราะจะส่งผลให้การเมืองไม่พัฒนา

น.ต.ศิธากล่าวต่อว่า ส่วนที่นายสุเทพ ระบุว่าการวางระเบิดมุ่งให้ถึงแก่ชีวิตและทรัพย์สินให้มากที่สุด เพราะจุดวางระเบิดอยู่ใกล้กับห้องทำงานของนายอภิสิทธิ์นั้นตนคิดว่าถ้าเป็นคนนอกและไม่เคยเข้าไปในที่ทำการพรรคคงไม่มีทางรู้ได้ว่าห้องทำงานใครอยู่ตรงไหน คนที่จะรู้ว่าจุดไหนจะกระทบกระเทือนยุทธศาสตร์ของพรรคประชาธิปัตย์มากที่สุด ก็คงเป็นคนใน พรรคประชาธิปัตย์เอง เมื่อถามว่าแสดงว่าพรรค ไทยรักไทยมองว่าพรรคประชาธิปัตย์สร้างสถาน การณ์เอง น.ต.ศิธากล่าวว่า ตนไม่ได้บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์สร้างสถานการณ์ แต่กำลังชี้ให้เห็นว่าพรรคไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องไปทำเช่นนั้น

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชื่อว่าเหตุวางระเบิดเป็นการสร้างสถานการณ์ ว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้น หากช้าไปสัก 10 นาที ความเสียหายจะเกิดขึ้นจริง ซึ่งการที่ตนต้องพูดเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องของพรรค แต่เป็นเรื่องกฎหมายของบ้านเมือง และเป็นตัวฟ้องว่าขณะนี้ เราปล่อยให้สภาพบ้านเมืองอยู่ในภาวะที่มีการข่มขู่คุกคามกันได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน แล้วพยายามทำให้สังคมชินชาไปกับเหตุการณ์เหล่านี้

"ผมขอย้ำว่าสิ่งเหล่านี้ คือ พื้นฐาน หรือจะเรียกว่ากติกาที่สำคัญของสังคมที่เจริญ แล้ว และสังคมประชาธิปไตยต้องอิงอยู่กับพื้นฐานในเรื่องหลักประกัน สิทธิเสรีภาพ การรักษากฎหมาย การปล่อยปละละเลย หรือการพยายามทำให้เกิดความรู้สึกว่า สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติธรรมดา เป็นการทำลายพื้นฐานที่สำคัญของสังคมประชาธิปไตย ผมจึงเรียกร้องว่าต้องมีการดำเนิน การอย่างจริงจัง ตอนนี้คนที่เห็นไม่ตรงกับรัฐบาลต้องเผชิญกับการคุกคามหลายรูปแบบ ไม่ใช่เพิ่งจะเกิด เช่น ถ้าเป็นนักธุรกิจ ก็จะเจอกลไกของ ปปง. หรือกรมสรรพากร หรือกรณีที่ซอยละลายทรัพย์ คนที่แสดงความเห็นก็ต้องถูกคนที่อ้างว่าเป็นตำรวจมาถ่ายรูป แต่ตำรวจบอก ไม่ใช่เป็น สิ่งที่บ่งบอกว่าสังคมเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ เป็นสังคมที่เคารพกฎหมายกันหรือไม่" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และสืบเสาะให้ดี เพราะปกติแล้วระเบิดอยู่ในมือของโจรผู้ร้ายและเจ้าหน้าที่ หากบานปลายจะกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาของกรุงเทพฯที่ต้องมีระเบิดทุกวัน ซึ่งจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์และผู้รับผิดชอบ ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าไม่แน่ใจว่าเป็นการสร้างสถานการณ์หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า หากเห็นว่าการเป็นสร้างสถานการณ์ ก็ขอให้นำตัวคนสร้างสถานการณ์มาดำเนินการ เพราะที่จริงแล้ว รัฐบาลจะต้องดูแลสภาพเช่นนี้ แต่การพูดอะไรก็ตามเพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบก็พูดได้ทั้งนั้น

วันเดียวกัน เวลา 11.30 น. พล.ต.ต. อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 พร้อม พ.ต.อ.วิชัย สังข์ประไพ รองผบก.น.2 ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ เพื่อหาแนวทางในการสืบสวนติดตามตัวคนร้ายลอบวางระเบิดที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ โดย พล.ต.ต.อำนวย เปิดเผยว่า ขณะนี้ทาง กก.สส.น.2 และสน.บางซื่อ ได้ร่วมกันทำงานเน้นการรักษาความปลอดภัยและการสอบสวนพยาน ซึ่งสอบไปแล้ว 6 ปาก คาดว่าจะมีการสอบสวนเพิ่มเติมอีก นอกจากนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปที่พรรค โดยผลัดเข้าเวรยามผลัดละ 2 นาย และนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานต่าง ๆ พยานที่เห็นเหตุการณ์

พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รองผบก.หน. ศสส.บช.น. กล่าวถึงการติดตามคนร้ายลอบวางระเบิดว่า คดีนี้ตำรวจได้เร่งสืบสวนหาตัวคนร้าย โดยส่งกำลังลงไปสืบสวนในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ต้องสงสัย และเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ เหตุวางระเบิดทั้ง 3 ที่ คือที่สันติอโศก กระทรวงมหาดไทย และหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ซึ่งมีส่วนคล้ายกัน ขอเวลาให้ตำรวจได้ทำงานเสียก่อนจึงจะให้คำตอบต่าง ๆ ได้

รายงานข่าวด้านการสืบสวน แจ้งว่า ระเบิดทีเอ็นทีที่คนร้ายใช้นั้นเป็นระเบิดที่มีใช้ในหน่วยงานราชการบางหน่วยเท่านั้น ซึ่งผู้ประกอบระเบิดมีความชำนาญในเรื่องนี้เป็นอย่างดี หาก เกิดระเบิดขึ้นจริง ๆ อนุภาพจะทำลายอาคารได้ทั้งหลังแต่ครั้งนี้โชคดีที่มีคนมาพบเสียก่อน ทั้งนี้จากข้อมูลที่ได้เชื่อว่าคนร้ายเป็นคนละกลุ่มกับที่เคยก่อเหตุมาก่อนหน้านี้ เพราะวิธีการประกอบระเบิดมีความแตกต่างกันมาก ซึ่งชุดสืบสวนคาดว่าน่าจะมีคนมีสีหรือแก๊งมีสีบางหน่วยงานเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยอย่างแน่นอน.