ตร.ตามจับได้อีก 1 ฆ่าพี่-ข่มขืนน้อง

"ตามลากคอได้ อีก 1 คนแล้ว"



จากคดีสะเทือนขวัญแก๊งเดนนรกหื่นกามลวง น.ส.แอน (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ไปรุมโทรมแล้วใช้มีดแทงนายอั้ม (นามสมมติ) อายุ 17 ปี พี่ชายที่มีนิสัยเป็นกะเทยเสียชีวิต

เหตุเกิดที่กระท่อมร้างหลังวัดพายทอง

หมู่ 1 ต.สายทอง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ก่อนนำศพนายอั้มไปทิ้งบ่อทรายหมู่ 1 ต.บางชะนี อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และนำ น.ส.แอนไปกักขังที่บ้าน ต.หัวไผ่ อ.เมืองอ่างทอง ผลัดกันข่มขืนอีกรอบ

กระทั่งเหยื่อหลบหนีออกมาได้

ต่อมาตำรวจติดตามจับกุม น.ส.นาตาชา (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นางนกต่อ และนายอำพล หรือเปิ้ล สิทธิกุล อายุ 21 ปี ไว้ได้ พร้อมออกหมายจับล่าสมาชิกแก๊งกามโฉดที่เหลืออีก 4 คนนั้น

ล่าสุดตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้าย

ที่ร่วมกันก่อเหตุได้อีก 1 คนแล้ว โดยเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 เม.ย. พ.ต.อ.ศุภโยชก์ ธารีไทย ผกก.กสส.ภาค 1 นำตัวนายหนึ่ง คงเจริญ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/1 หมู่ 1 ต.ท่าตอ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา

1 ในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ

มาสอบปากคำอย่างเคร่งเครียด หลังถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนติดตามจับกุมได้ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะหนีไปกบดานอยู่ที่อู่ซ่อมรถยนต์แห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 7 ต.หันสัง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา



จากการสอบสวนนายหนึ่ง

ผู้ต้องหาแก๊งทรชน ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันข่มขืน น.ส.แอนจริง แต่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมนายอั้ม พี่ชายของ น.ส.แอนโดยอ้างว่าในวันเกิดเหตุ นายมาโนช หรือตุ่น ชะนะพันธ์ ที่ยังหลบหนี และ น.ส.นาตาชา แฟนของนายมาโนช

ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ก่อนหน้านี้

ได้พา น.ส.แอน กับผู้ตายมาที่กระท่อมร้างที่เกิดเหตุแล้วมีปัญหาทะเลาะกัน นายมาโนชเลยลาก น.ส.แอนไปข่มขืนเป็นคนแรกแล้วให้พวกที่เหลือขืนใจต่อ ส่วนนายอั้มที่พยายามเข้าไปช่วยน้องสาว

นายมาโนชกับนายอำพลเป็นคนฆ่า

จากนั้นถูกนายมาโนชบังคับให้ช่วยอุ้มศพขึ้นรถปิกอัพเอาไปทิ้งเพื่ออำพรางคดี ที่ผ่านมายอมรับว่าร่วมกับพวกตระเวนล่าเหยื่อมาหลายครั้ง

ด้าน พ.ต.อ.วิวัฒน์ วรรธนะวิบูลย์

รอง ผบก.หน.ศสส. ภาค 1 กล่าวภายหลังเดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้ต้องหาว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายหนึ่งได้แล้ว ทำให้ยังเหลือคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุอีก 3 คน คือ นายจิตติชัย หรือ

โซเวียต นักสอน อายุ 38 ปี

นายมาโนช หรือตุ่น ชะนะพันธ์ อายุ 35 ปี และนายเล้ง ไม่ทราบนามสกุล ขณะนี้ได้สั่งให้ชุดสืบสวนภาค 1 ประสานกับตำรวจท้องที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวคนร้าย คาดว่าน่าจะได้ตัวในเร็วๆนี้



ต่อมาช่วงบ่ายวันเดียวกัน

ตำรวจชุดสืบสวนภาค 1 นำตัวนายหนึ่งไปมอบให้ พ.ต.ท.อนุศักดิ์ เข็มทอง รอง ผกก.สส.สภ.อ.ป่าโมก เจ้าของท้องที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าระหว่างสอบปากคำนายหนึ่งเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า

พบเห็นนายจิตติชัย หรือโซเวียต 1 ในแก๊ง

ฆาตกรโหดที่ยังหลบหนี ได้ขับรถปิกอัพเข้าไปในบ้านญาติใกล้โรงอิฐ ริมถนนสายอ่างทอง-พระนครศรีอยุธยา ต.สายทอง อ.ป่าโมก จึงนำกำลังไปปิดล้อม แต่นายจิตติชัยไหวตัวหลบหนีไปได้

ขณะเดียวกัน นายองอาจ ชะนะพันธ์

อายุ 42 ปีพี่ชายของนายมาโนชผู้ต้องหาอีกคน ได้เข้าพบ พ.ต.ท.อนุศักดิ์เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังจากตัวเองมีชื่อเป็นผู้ครอบครองรถปิกอัพฟอร์ด สีเทา ทะเบียน บจ 9922 อ่างทอง ที่นายมาโนชนำไปใช้ในวันเกิดเหตุ

โดยยอมรับว่าเป็นคนเช่าซื้อรถคันดังกล่าวจริง

แต่รถเป็นของน้องชายที่วานให้ตนไปซื้อเท่านั้น ที่ผ่านมายอมรับว่านายมาโนชได้ก่อเรื่องมาหลายครั้ง โดยเมื่อปี 2534 เคยใช้ปืนยิงเจ้าของร้านชำในตลาดอ่างทองตาย พอออกจากคุกก็ยังไปก่อคดีนับไม่ถ้วน

แม้แต่ตนยังเคยถูกไล่ฟันมาแล้ว

เพราะไม่พอใจที่ไปตักเตือนให้ทำตัวดีๆ และเมื่อวันที่ 5 เม.ย.ทราบว่านายมาโนชได้โทรศัพท์ให้เมียโอนเงินให้ 5,000 บาท เพื่อเอาไว้ใช้ในการหลบหนี แต่เมียของน้องชายไม่ยอมโอนให้อ้างว่าไม่มีเงิน ส่วนตนยินดีช่วยตำรวจเต็มที่ หากรู้เบาะแสของน้องชายก็พร้อมแจ้งให้ทราบทันที



ด้าน พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ มีเพียร

ผบก.ภ.จ.อ่างทอง เปิดเผยถึงคดีดังกล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 3 คน เหลืออีก 3 คน จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก

สำหรับนายเล้ง 1 ในผู้ต้องหา

ที่หลบหนีขณะนี้ทราบชื่อจริงแล้วคือนายอดิศร สพันธุ์พงษ์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/1 หมู่ 6 ต.ท่าประจะ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ส่วนนายมาโนช ซึ่งเป็นหัวโจกในคดีนี้ตามแนวทางสืบสวน

พบว่ามีนิสัยโหดร้ายทารุณ

เคยก่อคดีอุกฉกรรจ์มาหลายครั้ง ล่าสุดทราบว่าทั้งนายมาโนชและนายอดิศรหนีลงไปทางภาคใต้แล้ว ได้สั่งให้ชุดสืบสวนไล่ล่าอย่างกระชั้นชิด หากต่อสู้ขัดขืนให้ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดได้ทันที

วันเดียวกันผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดสนามชัย

ต.ตลาดหลวง อ.เมืองอ่างทอง สถานที่ตั้งศพนายอั้ม พบญาติพากันจัดเตรียมงานศพด้วยบรรยากาศที่เศร้าสลด ทั้งนี้นางอ้วน (นามสมมติ) แม่ของผู้ตาย เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า

รู้สึกเสียใจคิดไม่ถึงว่าคนพวกนี้

จะมีความโหดเหี้ยมฆ่าคนที่ไม่มีทางต่อสู้และไม่เคยมีความโกรธแค้นอะไรกันมาก่อน สำหรับครอบครัวของตนมีฐานะยากจนคงไม่มีปัญญาไปสู้รบตบมือด้วยได้ แต่หวังให้ตำรวจรีบจับกุมคนร้ายที่ฆ่าลูกชายและทำกับลูกสาวมาชดใช้กรรมให้หมดโดยเร็ว



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์