โจรบาปชิงทรัพย์ ทุบพระคว่ำคากุฏิ



เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 6 เม.ย. พ.ต.ต.ปฏิกรณ์ หาญหัตถกิจ สารวัตรเวร สภ.ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

ได้รับแจ้งเหตุพระถูกทำร้ายร่างกาย

และชิงทรัพย์ที่วัดผลาหาร หมู่ 9 ต.คลองหก จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผกก.หน.สภ.ต. คลองห้า นำกำลังรุดไปสอบสวน

ที่เกิดเหตุเป็นกุฏิปูนสองชั้น

อยู่ห่างศาลาการเปรียญ 20 เมตร พบเพียงกองเลือดเปรอะพรมที่ปูหน้าโต๊ะหมู่บูชาในห้องโถงชั้นล่าง และมีไม้หน้าสามเปื้อนเลือดหักเป็นสองท่อนตกอยู่ มีร่องรอยการต่อสู้ข้าวของล้มระเนนระนาด

และพบรองเท้าแตะสีดำ 1 คู่

คาดว่าเป็นของคนร้ายตกอยู่ในห้องน้ำในกุฏิ โดยที่ประตูห้องน้ำที่เปิดออกไปทางหลังกุฏิถูกกระแทกอย่างแรงจนกลอนหักเสียหาย นอกจากนี้ยังพบกระเป๋าเสื้อผ้าของคนร้ายซ่อนอยู่ใต้ถุนศาลาการเปรียญ

ส่วนพระเหยื่อโหดชื่อพระสมพงษ์ อ้วนล่ำ

หรืออดีตพระครูธัญโสภณ อดีตเจ้าอาวาสวัดผลาหาร และอดีตเจ้าคณะตำบลคลองหก ที่เพิ่งลาออกจากตำแหน่งได้ไม่ถึงปี เนื่องจากอายุมากแล้วและสุขภาพไม่แข็งแรง



สอบสวนนายสำราญ ทองนพคุณ อายุ 62 ปี

ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเดินทางมาเยี่ยมพระสมพงษ์ตะโกนเรียกหน้ากุฏิแต่ไม่มีเสียงขานรับ เข้าไปดูในกุฏิก็ต้องตกใจที่พบพระสมพงษ์นอนคว่ำฟุบอยู่กับพื้น มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งที่ใบหน้าและกกหูซ้ายจนโหนกแก้มแตก

หูซ้ายฉีกเลือดทะลักนองพื้น

จึงรีบไปบอกพระสมุห์จเร อัคคปัญโญ เจ้าอาวาสวัดผลาหาร ช่วยเหลือนำส่ง รพ.คลองหลวง แต่เนื่องจากอาการสาหัส แพทย์ได้ส่งต่อไป รพ.ปทุมธานี

ส่วนพระสมุห์จเร อัคคปัญโญ

ให้การว่า คนร้ายน่าจะเป็นนายเจ้าขวัญ หรือโบ้ สุขเกษม อายุ 19 ปี เคยทำงานก่อสร้างที่วัดแล้วหายตัวไป เพิ่งย้อนกลับมาเมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งในวันดังกล่าวมีคนร้ายบุกเข้าไปขโมยเงินของพระสมพงษ์จำนวน 9,000 บาท และ

พระสมพงษ์ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ

สภ.ต.คลองห้า สงสัยว่าเป็นนายเจ้าขวัญ ก่อนเกิดเหตุมีพระในวัดเห็นนายเจ้าขวัญหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าเข้าไปป้วนเปี้ยนแถวศาลาการเปรียญแต่ไม่มีใครสนใจ เนื่องจากช่วงนั้นมีฝนตกหนัก กระทั่งนายสำราญไปพบพระสมพงษ์ถูกทำร้ายบาดเจ็บ

ทางด้าน พ.ต.ท.พัลลภ แอร่มหล้า

รอง ผกก.หน. สภ.ต.คลองห้า เปิดเผยว่ามีพยานยืนยันว่ารองเท้าแตะของกลาง และกระเป๋าเสื้อผ้าที่พบเป็นของนายเจ้าขวัญ ซึ่งคาดว่าเป็นโจรบาปรายนี้ ส่วนทรัพย์สินที่หายไปมีกระเป๋าสตางค์ 1 ใบ



ซึ่งถูกพบทิ้งอยู่ในหมู่บ้านมารีรมย์

ห่างที่เกิดเหตุ 3 กม. กับพระเครื่องที่พระสมพงษ์เก็บไว้ จำนวนหนึ่ง สำหรับคดีที่พระสมพงษ์สงสัยว่านายเจ้าขวัญขโมยเงินไปนั้น เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา พระสมพงษ์ พานายเจ้าขวัญไปให้ตำรวจสอบปากคำ

แต่นายเจ้าขวัญ ปฏิเสธเสียงแข็ง

ตรวจค้นเพิงพักของนายเจ้าขวัญไม่พบของกลาง พระสมพงษ์จึงตัดสินใจไม่เอาความ คาดว่านายเจ้าขวัญอาจโกรธแค้นเรื่องดังกล่าว ประกอบกับรู้ว่าพระสมพงษ์มีทรัพย์สิน จึงบุกเข้าทำร้ายแล้วชิงทรัพย์สินหนีไป ซึ่งจะเร่งรวบรวมหลักฐานออกหมายจับนำมาดำเนินคดีต่อไป



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์