รวบเครือข่ายยาไอซ์ล็อตใหญ่มูลค่า70ล.

  
วันที่ 7 ม.ค.56  เวลา 11.30  น. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น. )พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุธีร์ เณรกัณฐี รอง ผบช.น.(รรท.ผบก.น.4) และพ.ต.อ.สาโรช ซุ่นทรัพย์ รอง ผบก.น. 4 ร่วมกันแถลงผลจับกุม น.ส. ศุภนุช หงษาไกร อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่18/194 หมู่2 ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาลักลอบขนยาไอซ์ส่งเอเย่นต์ใหญ่กลางกรุง ผ่านช่องทางการขนส่งพัสดุจากต่างจังหวัด แล้วนำไปฝากไว้ที่เคาเตอร์รับฝากของในห้างสรรพสินค้าพร้อมของกลางยาไอซ์น้ำหนักรวม 29 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท จับกุมตัวได้ในลานจอดรถชั้น G ห้างสรรพสินค้า ย่านบางกะปิ วันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา
    
รรท.ผบก.น.4 เปิดเผยว่า เครือข่ายยาเสพติดรายนี้ ใช้ช่องทางการรับฝากสิ่งของสำหรับบริการลูกค้า ในห้างสรรพสินค้าดัง ย่านบางกะปิ เป็นที่ส่งยาแต่ละครั้ง
 
โดยใช้จุดรับฝากของบริเวณลานจอดรถชั้น G เป็นที่รับส่งยา ตำรวจได้สืบสวนติดตามแกะรอยมาอย่างต่อเนื่องเป็นเครือข่ายใหญ่ มีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมอ้างว่า เป็นเพียงผู้รับว่าจ้างมาอีกทอดหนึ่งเท่านั้น ไม่มีส่วนรู้เห็นกับยาเลพติดของกลางทั้งหมด ระบุได้ค่าจ้างนำของมาฝากและส่งบัตรให้กับชายอีกคนที่มารับของครั้งละ 1-2 หมื่นบาท จะสอบสวนขยายผลไปถึงผู้เกี่ยวข้องผู้จ้างวานและนายทุนรายใหญ่บงการเบื้องหลังต่อไป
    
 ด้าน น.ส.ศุภนุช ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้รับการไหว้วานจากเพื่อนชายคนหนึ่งชื่อนายทัน ไม่ทราบนามสกุล ให้ไปรับกล่องพัสดุจากบริษัทขนส่งแห่งหนึ่งย่านหัวลำโพง
 
และนำไปฝากไว้ที่จุดรับฝากของในห้างเพื่อรอคนมารับ โดยไม่ทราบว่า ภายในกล่องพัสดุเป็นยาเสพติดเพราะไม่เคยเปิดดูและไม่รู้ว่าข้างในเป็นอะไร หากรู้ว่าเป็นยาเสพติดก็จะไม่ทำเด็ดขาด ที่ผ่านมาทำมาแล้ว 3 ครั้งเพราะร้อนเงินต้องการหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายดูแลครอบครัว และเมื่อมาถูกจับในวันนี้รู้สึกเสียใจที่เห็นแก่เงินมากเกินไปจนไม่รู้ว่าอะไรถูกอะไร
    
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของพนักงานสอบสวนนั้นไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหารายนี้ โดยหลังแถลงข่าวได้ควบคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมและแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท1ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต