ปอ.เบรกแตก ชนวินาศ 20 คันรวดคาที่ 1

"รถยูโร ชนยับ เหตุเบรกขัดข้อง"


เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 4 เม.ย. พ.ต.ต.เอกชัย ศรีระพงษ์ พงส.(สบ2) สน.ดุสิต

รับแจ้งเหตุรถเมล์พุ่งชนท้ายรถยนต์หลายคัน

บริเวณสี่แยกวัดเบญจมบพิตรฯ ถนนศรีอยุธยา มุ่งหน้าลานพระบรมรูปทรงม้า แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กทม. ไปตรวจสอบพบรถปรับอากาศ ขสมก. ยูโรทู เอ็นจีวี สีครีม สาย 72

วิ่งระหว่างท่าเรือคลองเตย-เทเวศร์

หมายเลขข้างรถ 4-44148 ทะเบียน 12-5454 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนท้ายรถยนต์ที่จอดติดไฟแดงอยู่ข้างหน้ารวมทั้งสิ้น 20 คัน

ในจำนวนนี้มีรถยนต์พังเสียหาย

ยับเยินกลายสภาพเป็นเศษเหล็ก 5 คัน คือรถตู้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน อท 6972 กรุงเทพมหานคร ในรถมีผู้เสียชีวิตคาซากรถ 1 คน ชื่อนายบุญสม บุญประเสริฐ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 372/15 ซอยรามคำแหง 59 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม.

ถัดไปเป็นรถกระบะโตโยต้า

ทะเบียน ณย 8367 กรุงเทพมหานคร รถเก๋งโตโยต้า 9อ 4302 กรุงเทพมหานคร รถยนต์ฮอนด้า หมายเลขทะเบียน ศร 1875 กรุงเทพมหานคร และรถแท็กซี่ ทะเบียน ทพ 464 กรุงเทพมหานคร โดยคนขับรถทั้งหมดถูกอัดก๊อบปี้ติดคาพวงมาลัย



หน่วยกู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างงัดร่างโชกเลือด

ส่ง รพ.ราชวิถี และ รพ.รามาฯ รวม 5 คน แต่ อาการไม่สาหัส นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีกนับสิบคน จากการที่รถถูกแรงกระแทกชนท้ายต่อเนื่องกันเป็นทอดๆ ทำให้ท้ายยุบ กระจกแตก กันชนพัง บนพื้นถนนก่อนถึงจุดอุบัติเหตุ มีรอยล้อรถเมล์เบรกครูดกับพื้นถนนเป็นทางยาวประมาณ 50 เมตร ก่อนจะพุ่งชนท้ายรถที่จอดติดไฟแดงจนพังระเนนระนาดเต็มถนน

สอบสวนทราบว่า

รถเมล์ปรับอากาศคันต้นเหตุ มีนายสมคิด ชูศรีพัทธ์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 838/96 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. เป็นคนขับและได้รับบาดเจ็บถูกแรงกระแทกที่หน้าอกและกระจกบาดปาก ต้องเย็บ 3 เข็ม ให้การว่าขับรถมา 15 ปี

เพิ่งเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเป็นครั้งแรก

ปกติแล้ว ขสมก.จะส่งรถตรวจสภาพเดือนละ 2 ครั้ง ล่าสุดเพิ่งส่งไปตรวจเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว ไม่มีปัญหาอะไร ก่อนเกิดเหตุ จอดรับ-ส่งผู้โดยสารที่ป้ายรถเมล์หน้ากรมทางหลวง จากนั้นขับมุ่งหน้าแยกวัดเบญจฯด้วยความเร็วพอสมควร เมื่อจะถึงสี่แยกได้เหยียบเบรก

แต่เหยียบไม่ลง คาดว่าระบบเบรกมีปัญหา

จึงร้องตะโกนบอกผู้โดยสารซึ่งเหลืออยู่ 3 คน ว่ารถเบรกไม่อยู่ ให้หาที่จับยึดรถไว้ให้แน่น ก่อนจะพุ่งชนท้ายรถตู้อย่างจัง แล้วกระแทกอัดท้ายรถคันข้างหน้าต่อกันไปเรื่อยๆกระทั่งสิ้นฤทธิ์

ทำให้รถหลายคันกระเด็นกีดขวาง

การจราจรเต็มถนน เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรเส้นทางดังกล่าวชั่วคราวเพื่อเข้าเคลียร์พื้นที่จนการจราจรติดขัดนานนับชั่วโมง ภายหลังสอบสวนแล้ว เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายสมคิดฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตาย จากนั้นจะส่งรถเมล์ต้นเหตุไปตรวจสภาพรถเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป



นายวิโรจน์ นีละโยธิน

หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ ขสมก. ชี้แจงถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นว่า รถโดยสารประจำทางคันดังกล่าวเป็นรถปรับอากาศ ยี่ห้อฮีโน่ ออกจากท่าต้นทางคลองเตยเมื่อเวลา 04.50 น. ปลายทางสี่เสาเทเวศร์

แต่เมื่อถึงแยกวัดเบญจฯเวลาประมาณ 05.30 น.

ได้เกิดอุบัติเหตุพุ่งชนรถยนต์ที่จอดรอสัญญาณไฟ เบื้องต้น นายสมคิด ชูศรีพัทธ์ พนักงานขับรถ แจ้งว่า ระบบเบรกห้ามล้อชำรุดใช้การไม่ได้ นับเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับรถเมล์ยูโรทู ซึ่งมีมาตรการตรวจซ่อมตามอายุการใช้งานจริง อย่างไรก็ตาม

ขณะนี้ทาง ขสมก.ได้ประสานไปยังบริษัทฮีโน่

เพื่อตรวจสอบคุณภาพของเบรกห้ามล้อรถทุกคัน เพื่อตรวจหาสาเหตุและป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นมาอีก ส่วนการช่วยเหลือผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บนั้น เนื่องจากรถดังกล่าว ขสมก.ทำประกันภัยไว้ 2 ประเภท คือประกันภัยตาม พ.ร.บ.ฯและประกันภัยชั้น 3 กับบริษัทสัมพันธ์ประกันภัย

ทาง ขสมก.ได้แจ้งให้บริษัทเข้าไปดำเนินการแล้ว

ซึ่งตามข้อกำหนด ผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินชดเชยจากการประกันภัยตาม พ.ร.บ.ฯ จำนวน 1 แสนบาท และจากประกันภัยชั้น 3 อีก 7.5 แสนบาท ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งรักษาตัวตามโรงพยาบาลต่างๆนั้น ขสมก.ได้สั่งการให้เขตการเดินรถที่ 4 ส่งเจ้าหน้าที่ไปแสดงความเสียใจพร้อมทั้งประสานงานกับญาติผู้บาดเจ็บแล้ว

ด้านนายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล

ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยภายหลังการเข้ารายงานต่อ พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนาคม ถึงกรณีการเกิดอุบัติเหตุรถเมล์ ปอ. 72 เบรกแตกพุ่งชนรถยนต์ที่จอดติดไฟแดงบริเวณแยกวัดเบญจฯ เมื่อช่วงเช้านี้ว่า



รมว.คมนาคมได้สั่งกำชับให้ ขสมก.

และหน่วยงานด้านขนส่งทั้งหมดเพิ่มความเข้มงวด ตรวจสอบสภาพรถโดยสารและพนักงานขับรถรวมถึงพนักงานที่ให้บริการบนรถโดยสารทุกประเภทให้มากขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาอุบัติเหตุซ้ำซาก แทนที่จะเป็นการแก้ไขเมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้ว

ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้มีการตรวจสอบคุณภาพ

รถโดยสารทุกคัน รวมถึงพนักงานที่ให้บริการบนรถทั้งหมดแล้ว ตั้งแต่ได้เข้ามารับตำแหน่ง ผอ.ขสมก. ใหม่ๆ แต่ยอมรับว่าแม้จะได้รับรายงานว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเบรกแตก แต่ก็จำเป็นต้องสอบทางวินัยพนักงานขับรถด้วยว่า มีการขับขี่โดยประมาท หรือใช้ความเร็วเกินที่กำหนดหรือไม่

ผอ.ขสมก.ยอมรับว่า

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความบกพร่องที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ดังนั้น จะต้องเพิ่มความเข้มงวดและระดมการตรวจสภาพรถโดยสารทุกคันทันที ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั้งในส่วนของอุปกรณ์ ระบบเบรก น้ำมันเครื่องล้อ และพฤติกรรมการขับของพนักงานขับรถ

คาดว่าจะสามารถตรวจสอบรถ

ได้ทั้งหมดภายใน 1-2 วันนี้ พร้อมทั้งจะมีการฝึกอบรมบุคลากรที่ให้บริการบนรถโดยสารใหม่ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าระหว่างที่มีการปรับปรุงคุณภาพของรถและบุคลากร อาจเกิดความบกพร่องหรือผิดพลาดขึ้นอีก เนื่องจากการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา

ไม่ได้เข้าไปแก้ปัญหาในเชิงลึก

และจากนี้ไป ขสมก.จะเร่งพัฒนาแก้ไขปัญหาและยกระดับการให้บริการและความปลอดภัยให้เทียบเท่าระดับสากล คาดว่าจะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ไม่เกินปีหน้า ส่วนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต



ทาง ขสมก.ได้แสดงความเสียใจ

และจะรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้รถที่เกิดอุบัติเหตุจะมีประกันภัยที่ต้องรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว แต่ทาง ขสมก.ก็จะเข้าไปช่วยเหลือดูแลเรื่องค่าชดเชยผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างใกล้ชิด ตามความเหมาะสม

พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนาคม

กล่าวว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้สั่งการให้ ขสมก.เข้มงวดในการตรวจสภาพรถมากขึ้น จากเดิมที่มีการตรวจสภาพประมาณ 1 ครั้ง/ปี ก็ให้เพิ่มเป็น 2-3 ครั้ง/ปี นอกจากนั้นให้

ขสมก.เน้นในเรื่องของคุณภาพ

ของพนักงานขับรถมากขึ้น ต้องเข้มงวดในระเบียบ มาตรฐานการขับรถ หากเกิดอุบัติเหตุก็ให้มีการลงโทษ หรือขึ้นแบล็กลิสต์ เพื่อให้ ทุกคนมีความรับผิดชอบและเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น

ขณะเดียวกัน นางสุวณา สุวรรณจูฑะ

อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุว่า ทราบว่าความเสียหายจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว เกิดจากการกระทำของผู้อื่น ไม่เกี่ยวกับผู้เสียหาย ทางกรมคุ้มครองสิทธิ์ฯ

จึงส่งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ

ทางการเงินและทนายความ จำนวน 5 คน เข้าไปให้คำแนะนำด้านกฎหมายแก่ผู้เสียหายแล้ว ว่าจะสามารถยื่นเรื่องขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานใดได้บ้าง ทั้งนี้

ในเบื้องต้นผู้เสียหายจะได้รับความช่วยเหลือ

ตาม พ.ร.บ.ประกันภัยรถยนต์ ส่วนผู้เสียหายใดที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ สามารถยื่นคำร้องต่อสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา กรมคุ้มครองสิทธิ์ฯได้

กรณีเสียชีวิตมีสิทธิ รับค่าตอบแทนตั้งแต่ 30,000-100,000 บาท

ส่วนผู้ บาดเจ็บมีสิทธิได้รับค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 30,000 บาท ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจจำนวน 20,000 บาท โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาทันที



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์