ระดมล่าอดีตตชด. ย้ำขัดขืนตายแน่

ความคืบหน้าในการติดตามล่าตัวนายภาคินัย จันทร์วิมาน อดีต ตชด.ผู้ต้องหาคดีฆ่ากดน้ำ น.ส.สุกานดา เมฆลอย

พนักงานฝ่ายการเงินโรงแรมโนโวเทล

ศรีนครินทร์ ชิงเงินสดทั้งสกุลไทยและต่างประเทศมูลค่าเกือบ 1 ล้านบาท หลบหนีไป โดยทิ้งศพเหยื่อไว้ในแอ่งน้ำชุมชนประดู่ลาย 2 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 7 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม.

ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้

(1 เม.ย.) พ.ต.อ.ชาญ แสงเสียงฟ้า ผกก.สส.บก.น.5 เปิดเผยว่า ชุดสืบสวนของ กก.สส.บก.น.5 ได้ประสานงานกับฝ่ายสืบสวน สน.บางนา ออกตามล่าตัวนายภาคินัยมาก่อนหน้าที่จะมีหมายจับแล้ว คิดว่าการที่ผู้ต้องหาเคยเป็นตำรวจมาก่อน ทำให้รู้วิธีที่จะหลบเลี่ยงการติดตามจับกุม

เพราะสังเกตว่าหลังจากหลบหนีไปแล้ว

นายภาคินัยกบดานเก็บตัวเงียบ ไม่ติดต่อใครเลย ประกอบกับผู้ต้องหามีเงินติดตัวไปประมาณ 5 แสนบาท ทำให้มีทุนที่จะหลบหนีไปได้อีกสักพัก อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้แบ่งงานกันออกติดตามนายภาคินัยทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเฉพาะที่ จ.ยะลา

เพราะเป็นคนพื้นเพในจังหวัดนั้น

คาดว่าคงต้องใช้เวลาในการติดตามจับกุมตัวพอสมควร ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้ทางผู้บังคับบัญชาเคยบอกให้ใช้มาตรการรุนแรง พ.ต.อ.ชาญตอบว่าคงแล้วแต่สถานการณ์ หากผู้ต้องหาให้จับกุมแต่โดยดีก็ไม่มีปัญหา

แต่หากต่อสู้หรือขัดขืน

ก็คงต้องใช้มาตรการรุนแรง คดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจและผู้บังคับบัญชาก็กำชับลงมา ฝ่ายผู้ปฏิบัติต้องทำงานกันเต็มที่อยู่แล้ว

ขณะที่ พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์

ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานเบาะแสจากนายภาคินัย จากชุดสืบสวนที่สั่งให้ลงพื้นที่ตามไล่ล่า ทั้งนี้ได้กำชับให้ชุดสืบสวนสอบสวนเร่งติดตามมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน ซึ่งในการติดตามตัวหากนายภาคินัยต่อสู้ขัดขืนการจับกุมของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม

ก็สามารถที่จะใช้ความรุนแรงขั้นเด็ดขาด

ได้ เพราะเชื่อว่าผู้ต้องหามีอาวุธ เนื่องจากเป็นอดีตตำรวจตระเวนชายแดน ทั้งนี้ หากผู้ใดพบเห็นตัวนายภาคินัยให้ช่วยแจ้งตำรวจที่ใกล้ที่สุด เพื่อเข้าจับกุมตัว

พ.ต.ท.ตฤณจร บุญโทแสง

รอง ผกก.สส. สน.บางนา เปิดเผยว่า หลังยื่นขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับนายภาคินัย จันทร์วิมาน อดีตพนักงานขับรถโรงแรมโนโวเทลผู้ต้องหาฆ่า น.ส.สุกานดา

พนักงานฝ่ายการเงินโรงแรมเดียวกัน

เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เร่งควานหาตัวผู้ต้องหาอย่างต่อเนื่อง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากได้ตัวในวันนี้เลย หากมีการต่อสู้ก็คงต้องจับตายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ด้านนายรัชดา เมฆลอย

บิดาของเหยื่อฆาตกรโหดเปิดเผยว่า ศพของ น.ส.สุกานดาได้ประกอบพิธีฝังแล้วที่สุเหร่าหนองบอน ซอยอ่อนนุช 70 แม้ลูกสาวจะเสียชีวิตแต่ตนยังรู้สึกภูมิใจที่เขามีสำนึกทำงานในหน้าที่ปกป้องทรัพย์สินของบริษัท ถึงขนาดเอาชีวิตเข้าแลก แต่ตรงนี้ไม่รู้ว่าทางบริษัทจะเห็นคุณค่าหรือไม่

ซึ่งในวันที่ 2 เม.ย. นี้

ทางผู้บริหารของบริษัทนัดให้ตนไปพูดคุยในเรื่องนี้ หลังจากนั้นจะไป สน.บางนา เพื่อถามความคืบหน้าในการติดตามตัวคนร้าย สำหรับตนแล้วเชื่อในความสามารถของตำรวจว่าจับกุมคนร้ายได้แน่ ผู้สื่อข่าวถามว่าจิตใจตอนนี้เป็นอย่างไร นายรัชดาตอบด้วยน้ำเสียงสลดว่าก็ผิดไปจากเดิม

เหมือนมีอะไรขาดหายไป

เปรียบได้กับที่ผ่านมาเราเคยมีแก้วสวยใบใสใบหนึ่ง จู่ๆก็แตกไปทำให้ทำใจได้ยาก อีกอย่างหนึ่งก็รู้สึกสงสารลูก เพราะเท่าที่ฟังแพทย์ ชันสูตรศพพูดและดูตามรูปการณ์แล้ว ลูกสาวคงต้องตาย อย่างทรมานสุดๆ ขนาดเราสำลักน้ำเล็กๆน้อยๆยังปวดแสบ ปวดร้อนขึ้นไปถึงสมอง

แต่ลูกสาวต้องทนทุกข์ทรมาน

จนสิ้นลมหายใจ ตอนแรกตั้งปณิธานไว้ว่าถ้าพบศพจะไม่ร้องไห้ แต่เมื่อเห็นเข้าจริงๆและฟังข้อมูลต่างๆแล้วก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่ ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ตอนแรกตำรวจปล่อยตัวผู้ต้องหาไป นายรัชดาตอบว่า

ตำรวจบอกว่าข้อมูลไม่แน่น

และยังมองว่าลูกสาวเป็นคนเอาเงินไป มองว่าลูกเราผิดร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำให้คนอื่นพลอยมองว่าลูกสาวเป็นคนผิดไปด้วย แต่เมื่อพบศพก็เป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ของลูกสาว ทำให้มองเห็นความกล้าหาญที่เอาชีวิตเข้าแลก

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ