โจรล่าจตุคาม-งัดศูนย์พระเครื่องนครฯ

กระแสจตุคามฟีเวอร์ โจรบุกงัดศูนย์พระเครื่องจตุคามรามเทพ ของดีเจ.ดังเมืองคอน "ลุงทอง ส่องพระ" กวาดเกลี้ยงจตุคามรามเทพรุ่นดังๆ กว่า 100 องค์

รวมมูลค่านับล้านบาท ทิ้งไว้เพียงรอยเลือดที่โดนบานเกล็ดบาด เผยอาศัยจังหวะช่วงเจ้าของปิดร้าน ตอนกลางคืนจึงบุกขโมย ตร.ตรวจลายนิ้วมือแฝงล่าตัว อีกรายที่จ.สตูลงัดบ้านลักของมีค่าพร้อมจตุคามรามเทพรุ่นปี 2530

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 30 มี.ค.

พ.ต.ท.อดุลย์ ใจแข็ง สารวัตรเวร สภ.อ.เมือง นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองวิทยาการเขต 43 นครศรีธรรมราช รุดไปตรวจสอบศูนย์ประชาสัมพันธ์ และสั่งจองบูชาจตุคามรามเทพ รุ่นคู่บารมี

บริเวณศูนย์พงศ์พลาซ่าหัวอิฐ

เลขที่ 14/17 ห้องเอ-3 และเอ-4 ถนนกะโรม ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง นครศรีธรรมราช หลังรับแจ้งว่ามีเหตุโจรเข้าไปงัดแงะขโมยพระเครื่องจำนวนมาก

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นแผงพระเครื่อง

ของนายเจษฎา วงศ์เมฆ หรือ "ลุงทองส่องพระ" อายุ 38 ปี เป็นดีเจ.นักจัดรายการ "ลุงทองส่องพระ" ทางสถานีวิทยุชุมชนในจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยพบว่าภายในร้านมีร่องรอยถูกคนร้ายงัดบานเกล็ดกระจกชั้นลอยด้านบน

และพบรอยเลือดหยด

เป็นทางยาวจำนวนมาก สันนิษฐานเป็นรอยเลือดของคนร้ายที่ถูกกระจกบานเกล็ดบาด นอกจากนั้น ยังมีร่องรอยการรื้อค้นภายในตู้กระจกพระเครื่อง ขโมยจตุคามรามเทพเป็นรุ่นต่างๆ ไปจำนวนมาก

นายสำเริง วงศ์เมฆ ผู้ดูแลศูนย์ฯ

ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของนายเจษฎา นำเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบร่องรอยคนร้ายเพื่อเก็บลายนิ้วมือแฝงเป็นหลักฐาน พร้อมกับกล่าวว่า วันเดียวกันนี้นายเจษฎา เจ้าของร้านไปทำธุระที่กรุงเทพฯ จึงให้ญาติและพรรคพวกมาดูแลร้านแทน

โดยกลางคืนไม่มีใครอยู่ที่ร้าน

และเหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยเมื่อคืนปิดร้านเวลาประมาณ 2 ทุ่ม กระทั่งเช้าวันเดียวกันนี้มาเปิดร้านพบว่าถูกคนร้ายงัดกระจกบานเกล็ดเข้าไปขโมยพระเครื่อง

นายสำเริงกล่าวต่อไปว่า

หลังสำรวจพระเครื่องในตู้กระจกพบว่ามีเหรียญจตุคามรามเทพ รุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมากในขณะนี้คือรุ่นบูรณะเจดีย์ราย, รุ่น 9 รอบ 9 พิธี ขุนพันธรักษ์ราชเดช, รุ่นทวีโภคทรัพย์ และรุ่นอื่นๆ

อีกหลายรุ่นรวมกว่า 100 เหรียญ

มูลค่านับล้านบาทหายไป และคนร้ายทิ้งเพียงร่องรอยหยดเลือดไว้ให้ดูต่างหน้า ซึ่งคาดว่ากระจกบานเกล็ดหน้าต่างบาดที่เท้าจนบาดเจ็บก่อนหลบหนีไป

ตำรวจสันนิษฐานว่า

คนร้ายที่มาก่อเหตุน่าจะมาเพียงคนเดียว เฝ้ารอสังเกตการณ์จนเจ้าของร้านปิด แล้วกลับที่พัก จากนั้นก็เข้ามาขโมยพระเครื่อง โดยงัดหน้าต่างด้านหลังร้านก่อนแต่ไม่สำเร็จ จึงปีนขึ้นไปทุบกระจกบานเกล็ดจนแตกจากนั้นปีนลงมาด้านล่าง

เลือกขโมยพระเครื่อง

ที่ได้รับความนิยมและขายง่ายจนพอใจก่อนจะหลบหนี ซึ่งในเบื้องต้นได้เก็บลายนิ้วมือแฝงคนร้ายไว้แล้วและจะทำการสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อีกราย เมื่อเวลา 10.00 น.

วันเดียวกันนี้ นางนัฐกาจน์ อักษรชื่น อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1043 ม.7 ต.คลองขุด อ.เมือง สตูล เข้าแจ้งความต่อร.ต.อ.ศุภชัย เพชรสกุล ร้อยเวรสภ.อ.เมือง สตูล ว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวน งัดประตูหลังบ้านเข้าไปขโมยสิ่งของเช่นสร้อยคอทองคำ แหวนทองคำ

และของมีค่าอื่นๆ รวม 10 รายการ

พร้อมกันนั้นยังขโมยองค์ท้าวจตุคามรามเทพ รุ่นปี"30 ไปด้วย รวมมูลค่าสิ่งของทั้งหมดเป็นเงินนับล้านบาท หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์