พายุฤดูร้อนถล่ม ฟ้าผ่า-ตาย2ศพ

"พายุฤดูร้อนป่วนหนัก"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (30 มี.ค.) ที่ จ.ปราจีนบุรี ในเขต อ.กบินทร์บุรี ฝนตกหนักและมีพายุจนต้นไม้และเสาไฟฟ้าโค่นไฟฟ้าดับ บ้านเรือนประชาชนใน ต.เมืองเก่า ได้รับความเสียหายกว่า 100 หลัง

ปั๊มน้ำมันบางแห่งตัวสำนักงานพังลงมา มีผู้บาดเจ็บ 1 คน ถูกกระจกบาด เพื่อนนำส่งโรงพยาบาลกบินทร์บุรี แพทย์เย็บแผลให้ 70 เข็ม นอกจากนี้ ยังมีโรงงานและโกดังหลายแห่งเสียหาย

ภาคอีสานที่ จ.กาฬสินธุ์

มีผู้เสียชีวิต 2 คน โดยนายสายันต์ มาตรราช อายุ 23 ปี กับภรรยาชื่อ น.ส.กัลยา พินเพ็ญ อายุ 22 ปี บ้านอยู่ ต.หนองราช อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร แต่ไปซื้อที่ดินทำสวนยางพาราอยู่ที่บ้านดงสวนพัฒนา หมู่ 15 ต.ดงสวน อ.คำม่วง กลางหุบเขาภูพาน

ขณะดูแลสวนยางมีพายุฝนฟ้าคะนอง

จึงวิ่งไปหลบใต้ต้นไม้และโดนฟ้าผ่าเข้าอย่างจัง เนื้อตัวบางส่วนไหม้เสียชีวิตทันทีทั้งคู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.คำม่วงตรวจชันสูตรศพเจอซากโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงของนายสายันต์ซึ่งไหม้เกรียม คาดว่าอาจเป็นสื่อทำให้ฟ้าผ่า

นายเดชา ตันติยวรงค์ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์

กล่าวว่า ขอให้ประชาชนระวังพายุช่วงนี้เป็นพิเศษ โดยเฉพาะราษฎรที่อยู่ตามแนวเทือกเขาภูพาน ช่วงที่ออกไปทำไร่ ทำสวน หากมีฝนตกให้ถอดเครื่องประดับทุกชนิดออกจากตัวให้หมด รวมทั้งโทรศัพท์มือถือ เพราะเป็นสื่อนำไฟฟ้า อาจโดนฟ้าผ่าเสียชีวิต

นายวีระศักดิ์ วิเชียรแสน

ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ช่วงเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่หัวค่ำวันที่ 29 มี.ค. เกือบถึงเที่ยงคืน มีบ้านเรือนราษฎรในเขตบ้านดงสวนพัฒนา ต.ดงสวน และ บ้านโพนแพง บ้านดินจี่ ต.นาทัน อ.คำม่วง



ตามแนวเขาภูพานเสียหาย 90 หลัง

และที่ อ.ท่าคันโท บ้านเรือนเสียหาย 100 หลัง บนถนนสายท่าคันโท-กระนวน ในเขตบ้านกุดจิก เสาไฟฟ้าล้ม ส่งผลให้ไฟฟ้าดับบางพื้นที่ในเขต อ.ท่าคันโท หนองกุงศรี ห้วยเม็ก ยางตลาด และ อ.เมืองกาฬสินธุ์

ที่ จ.เลย ซึ่งประสบภาวะแห้งแล้ง

ที่หมู่บ้านท่ามะนาว ต.นาอ้อ อ.เมืองเลย ปลานิลในกระชังที่ชาวบ้านเลี้ยงตายลอยเป็นเบือ นางสุใจ พุทธมาตย์ อายุ 38 ปี ประธานกลุ่มผู้เลี้ยงปลากระชังบ้านท่ามะนาว

กล่าวว่าสาเหตุเนื่องจากน้ำในแม่น้ำเลย

แห้งเร็วมาก และในพื้นที่ตำบลนาอ้อซึ่งอยู่ติดแม่น้ำเลย มีการเลี้ยงปลากันมากจากการส่งเสริมการเลี้ยงของบริษัทแห่งหนึ่ง เมื่อน้ำในแม่น้ำเลยแห้งเร็วทำให้เกิดปัญหา เพราะมีการกักเก็บน้ำแล้วสูบไปใช้ปลูกถั่วเหลืองและข้าวโพดหวานด้วย ทำให้น้ำไม่พอ

ส่วน จ.นครราชสีมา

กลางดึกวันเดียวกัน ฝนตกหนักและเกิดพายุฤดูร้อนในหลายพื้นที่ โดย อ.เมืองนครราชสีมา เสาไฟฟ้าริมถนนมิตรภาพ ตั้งแต่หน้ามหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล ถึงสะพานสูงจอหอ ต.จอหอ ล้ม

สายไฟขาดเป็นช่วงๆ

ระยะทางราว 3 กิโลเมตร ทั้งขาเข้าและขาออกนอกเมือง ส่งผลให้ไฟฟ้าดับตลอดทั้งคืนจนรุ่งเช้า เสาไฟฟ้าบางต้นล้มทับรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน นค 3729 นครราชสีมา และรถเก๋งยี่ห้อซีตรอง สีแดง ที่จอดอยู่หน้าศูนย์โตโยต้าจอหอ เสียหาย



สำหรับเจ้าของรถตู้

คือนายมูรูกานานดำ โกวินดาราช อายุ 48 ปี ชาวปากีสถาน อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ 3 ถนนมิตรภาพ-หนองคาย ต.บ้านเกาะ อ.เมืองนครราชสีมา ขับรถผ่านมาพร้อมบุตรสาวอายุ 2 ขวบ แต่รอดตายหวุดหวิด

นอกจากนี้ เสาไฟฟ้ายังล้มทับ

อาคารบ้านเรือนริมถนนมิตรภาพเสียหายหลายหลัง เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิ-ภาคจังหวัดนครราชสีมา และหน่วยกู้ภัยระดมกำลังคนและอุปกรณ์ยกเสาไฟฟ้าพ้นกีดขวางถนนและติดตั้งใหม่ โดยเร่งทำงานกันทั้งคืน

ภาคเหนือที่ จ.พิษณุโลก

นายบุญยิ่ง คุ้มสุพรรณ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนืออากาศร้อนอบอ้าว และยังมีลมใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามา

ส่งผลให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงในเขต 9 อำเภอ ที่ ต.นครชุม อ.นครไทย มีลูกเห็บตก ทำให้พื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนเสียหาย

ด้านหมอกควันที่ยังเป็นปัญหาอยู่นั้น

ที่ จ.เชียงราย นายวรชัย อุตตมชัย รอง ผวจ.เชียงราย กล่าวว่า ระดับฝุ่นละอองยังเกินค่ามาตรฐาน ได้กำชับทุกอำเภอให้เข้มงวดห้ามเผาป่าและพื้นที่เพาะปลูก หากใครฝ่าฝืนให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

ประชาชนที่ต้อง การหน้ากากป้องกันฝุ่นละออง สามารถขอรับได้ที่สำนัก-งานสาธารณสุขอำเภอและโรงพยาบาลประจำอำเภอทุกแห่ง



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์