ศพสาว´โนโวเทล´ พบแล้วในป่ากก

การหายตัวของ น.ส.สุกานดา เมฆลอย อายุ 27 ปี พนักงานฝ่ายการเงิน โรงแรมโนโวเทล ถนนศรีนครินทร์ และนายภาคินัย จันทรวิมาน พนักงานขับรถผู้บริหาร

พร้อมเงินสดเกือบล้านบาท

ขณะนำเงินของโรงแรมไปฝากเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนศรีนครินทร์ เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา เบื้องต้นตำรวจได้ตั้งประเด็นสงสัยว่าน่าจะเป็นการชิงทรัพย์พนักงานสาวฝ่ายบัญชีระหว่างทาง เพราะหลังเกิดเหตุตำรวจได้เชิญตัวนายภาคินัย

เป็นอดีต ตชด.มาสอบปากคำ

และพบพิรุธจากสภาพรถเก๋งฮอนด้า สีดำ ทะเบียน ศอ 2808 กรุงเทพมหานคร ที่มีรอยเฉี่ยวชนและเปลี่ยนกระจกหน้ารถใหม่ แต่ก็ต้องปล่อยตัวไปชั่วคราว จากนั้นก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย รวมทั้งไม่มีวี่แววของตัวพนักงานเหยื่อสาว คาดว่าน่าจะเสียชีวิตไปแล้วนั้น

เมื่อวานนี้ (30 มี.ค.)

พ.ต.ท.จักรภัณฑ์ จันทรอุทัย สวส.สน.บางนา เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนกระจายกำลังออกค้นหาตัว น.ส.สุกานดา เหยื่อสาว ในรัศมีเป็นวงกลม เนื้อที่ประมาณ 20 ตารางกิโลเมตร รอบโรงแรมโนโวเทล เพื่อตรวจสอบตามบึงและหนองน้ำ

รวมทั้งค้นหาพยาน

ว่าใครพบเห็นรถและตัวของผู้ต้องสงสัยวนเวียนในพื้นที่บางนาในห้วงเวลาดังกล่าวบ้าง แต่ก็ยังไร้วี่แววคาดว่าผู้ต้องสงสัยน่าจะเตรียมการก่อนก่อเหตุไว้เป็นอย่างดี เพราะในช่วงเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากก่อเหตุแล้วคนร้ายต้องนำเหยื่อไปยังจุดที่กำหนดไว้ซุกซ่อนในทันที

ข้อมูลขณะนี้ยอมรับว่า

ทั้ง 2 เรื่องไม่ว่าการหาตัวเหยื่อและผู้ต้องสงสัยค่อนข้างลำบาก เนื่องจากคำให้การของนางเหลียน บุญหนำ ภรรยานายภาคินัยนั้น ยังให้การปกปิดในบางเรื่องบางประเด็น แต่ ตำรวจก็ยังทำงานกันเต็มที่

พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.

กล่าวว่า เชื่อว่าเหยื่อสาวน่าจะเสียชีวิตแล้ว ขณะนี้ยังไม่พบศพ น.ส.สุกานดา หลังจากตำรวจได้ตัวพยานที่ยืนยันว่าพบเห็นนายภาคินัยใส่เสื้อผ้าเปียกเป็นพิรุธ และมีร่องรอยคราบเลือดตามร่างกาย ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำพยานประกอบสำนวน

เพื่อขอความเห็นชอบจับกุม

ถือว่าคดีคืบหน้าไปมาก ในชั้นนี้พนักงานสอบสวนตั้งข้อหาชิงทรัพย์ไว้ก่อน และเมื่อพบศพเหยื่อสาวจึงจะแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเชื่อว่าฝ่ายผู้หญิงถูกชิงทรัพย์ ไม่ได้หายตัวไปด้วยกัน

ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส

รักษาการ ผบ.ตร. กล่าวว่า พฤติการณ์การหลบหนีของนายภาคินัยเชื่อว่ามีส่วนกระทำความผิด การสืบสวนไม่ทราบแน่ชัดว่าหลบหนีไปอยู่ที่ไหน หากได้หมายจับมาจึงจะเร่งรัดสืบสวนจับกุมตัวต่อไป ครั้งแรกหลังเกิดเหตุใหม่ๆพนักงานสอบสวนเชิญตัวนายภาคินัยมาพบ

ขณะนั้นตำรวจไม่มีพยานหลักฐาน

จึงไม่มีอำนาจควบคุมตัว เพราะตามระเบียบต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับกุม แต่ตำรวจไม่ได้จัดกำลังประกบตัวไว้ในระหว่างที่เป็นผู้ต้องสงสัยเพื่อไม่ให้หลบหนี ตรงนี้ถือว่ามีความบกพร่อง ซึ่งได้ตำหนิการทำงานของตำรวจพื้นที่ไปแล้ว

ต่อมาเมื่อเวลา 18.10 น.

มีพลเมืองดีเป็นชาวบ้านในชุมชนประดู่ลาย 2 ถนนเฉลิมพระเกียรติ แขวงบางบอน เขตประเวศ กทม. โทรศัพท์แจ้งตำรวจ สน.ประเวศ หลังได้กลิ่นเหม็นเน่าในป่ากกหลังชุมชน และเมื่อเข้าไปตรวจสอบพบเป็นศพหญิงสาว พ.ต.ท.เหรียญชัย เหล่าจีน

พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ประเวศ

พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และแพทย์จาก รพ.ตำรวจ พบที่เกิดเหตุริมถนนทางเข้าชุมชนเป็นป่ากก ข้างทางมีร่องรอยการแหวกเป็นทางเดินลึกเข้าไปประมาณ 60 เมตร พบศพหญิงสาวในสภาพขึ้นอืด

ส่งกลิ่นเน่าเหม็นโชยไปทั่วบริเวณ

ตามร่างกายมีหนอนไต่ยั้วเยี้ย นอนคว่ำหน้าในแอ่งน้ำ ผู้ตายสวมเสื้อสูทสีดำ กระโปรงสีดำถลกร่นขึ้นไปอยู่ระดับเอว ต่อมา พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผช.ผบ.ตร. เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ หลังจากเข้าดูศพและปรึกษากับนายรัชดา เมฆลอย บิดาของ น.ส.สุกานดาแล้ว ออกมาให้สัมภาษณ์

ผู้สื่อข่าวว่า ศพที่พบคือ น.ส.สุกานดาแน่นอน

จากนี้ไปจะกำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งทำเรื่องขออนุมัติออกหมายจับนายภาคินัยต่อไป คาดว่าวันที่ 31 มี.ค.นี้คงออกหมายจับได้

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ