ศาลตัดสินประหารชีวิตอาซันแก๊งค้าผงขาว-ยาบ้าข้ามชาติ

"รับโทษคนเดียว ที่เหลือยกฟ้อง"


ประหารชีวิต อาซัน" ชาวเขาเผ่าเย้า แก๊งค้าผงขาว-ยาบ้า ข้ามชาติ ส่งออกลาว ส่วนแฟน สาวลิ่วล้อ ศาลยกฟ้อง พยานโจทก์ไม่มีน้ำหนัก

ห้องพิจารณาคดี 912 ศาลอาญา

ถ.รัชดาภิเษก - เมื่อเวลา 17.20 น. 29 มี.ค. ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 3 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายจิระศักดิ์ หรืออาซัน ฉัตรวรนิติ อายุ 29 ปี ชาวเขาเผ่าเย้า , นายอุทัย หรือซวง หรือกวง สมประสพสุข และ นางกาญจนาหอมนาน เป็นจำเลยที่ 1- 3

ในความผิดฐานร่วมกันมีเฮโรอีน

จำนวน 60 แท่ง และเมทเอมเฟตามีน (ยา บ้า) จำนวน 137,800 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และสมคบกันกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยจำเลยทั้งสาม ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

โดยคดีนี้โจทก์ฟ้องและนำสืบว่า

เมื่อวันที่ 22 ก.พ.47 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม นายเฉงแคะ แซ่ผ่าน พร้อมพวกรวม 5 คน ได้ของกลางยาบ้าจำนวน 137,800 เม็ด และเฮโรอีน จำนวน 60 แท่ง พร้อมโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง โดยผู้ต้องหารายดังกล่าว ให้การไว้ว่า ยาเสพติดทั้งหมดเป็นของจำเลยที่ 1

ศาลพิเคราะห์แล้ว

คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่า จากคำเบิกความ พยานโจทก์ซึ่งเป็นผู้ค้ายาเสพติด ให้การสอดคล้องกับคำเบิกความของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า จำเลยที่ 1 จะเป็นผู้ประสานงานติดต่อให้กลุ่มเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติด

ไปรับยาเสพติด

และรับเงินในการซื้อ ยาเสพติด โดยจำเลยที่ 1 เป็นผู้ว่าจ้าง ซึ่งจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วยงาน ทั้ง ปปส.ตำรวจ บช.ปส. หน่วยยาเสพติดประเทศสหรัฐประจำประเทศไทย พบว่า จำเลยที่ 1 มีการติดต่อเป็นผู้ประสานงานในการสั่งซื้อยาเสพติดดังกล่าว


ประกอบการฐานข้อมูลผู้ค้ายาเสพติดของรัฐ

มีชื่อจำเลยที่ 1 อยู่ด้วย เชื่อว่าพยานโจทก์เบิกความไปตามจริง โดยที่ไม่มีเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน พยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 ทำหน้าที่ประสานการรับส่งยาเสพติด

ซึ่งแม้ว่าการติดต่อซื้อขายยาเสพติดนั้น

จำเลยที่ 1 จะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วยแต่การที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้เจรจานัดหมายนั้น แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า จำเลยที่ 1 รู้เห็นและมีเจตนา เป็นตัวการจำหน่ายยาเสพติดของ กลางดังกล่าว

ส่วนกรณีที่โจทก์ ฟ้องว่าจำเลยที่ 1

เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ค้ายาเพสติดรายอื่นนั้น พยานหลักฐานโจทก์ไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดสำหรับจำเลยที่ 2 และ จำเลยที่ 3 นั้น ศาลเห็นว่า โจทก์ไม่มีพยานที่เบิกความเชื่อมโยงในการร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 1

ส่วนจำเลยที่ 3

แม้พบว่ามีโอนเงินเข้าบัญชีของจำเลยที่ 3 หลายครั้ง รวมเป็นเงินจำนวน กว่า 800,000บาท นั้น ก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินจากการค้ายาเสพติด และแม้ว่าจากการนำสืบของจำเลยที่ 1 จะฟังได้ความว่า จำเลยที่ 1

คบหากับจำเลยที่ 3

ลักษณะแบบคู่รักได้ 3 เดือนก่อนถูกจับกุมนั้น เห็นว่าการค้ายาเสพติดเป็นเรื่องที่ปกปิด ซึ่งเชื่อว่า ระยะเวลาเพียง 3 เดือนที่จำเลยที่ 1 คบหากับจำเลยที่ 3 ยัง จำเลยที่ 1 คงไม่กล้าที่จะบอกเรื่องการค้ายาดังกล่าวให้จำเลยที่ 3 ฟัง



อีกทั้งในการต่อสู้คดีจำเลยที่ 3

ได้ให้การปฎิเสธมาโดยตลอด พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมาจึงยังไม่เพียงพอที่จะนำมาลงโทษจำเลยที่ 2 - 3 ได้ จึงพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดจริงตามฟ้อง ฐานมีเฮโรอีน และเมทเอมเฟตามีน ยาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่าย ให้ประหารชีวิต

ส่วนความผิดฐานสมคบกัน

กันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ให้จำคุก 4 ปี แต่คำให้การของจำเลยที่ 1 เป็นประโยชน์ในการพิจารณาคดีอยู่บ้าง เห็นสมควรลดโทษให้ 1 ใน 3 ความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปกระทำผิด

คงจำคุกความผิดนี้

เป็นเวลา 2 ปี 9 เดือน แต่เมื่อรวมกระทงลงโทษจำเลยที่ 1 ทุกความผิดแล้ว คงให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 1ไว้สถานเดียว และให้ริบของกลาง ส่วนจำเลยที่ 2- 3 ให้ยกฟ้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

สำหรับนายจิระศักดิ์ หรือ อาซัน ถูก ตำรวจ บช.ปส. และป.ป.ส.ติตตามมานาน เมื่อสืบทราบว่า เป็นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในประเทศไทยและประเทศลาว เมื่อเจ้าหน้าที่

สามารถจับกุมกลุ่มเครือข่าย

ค้ายาเสพติดได้ นายจีระศักดิ์ ได้ไหวตัวก่อนหลบหนีเข้าไปยังประเทศจีน ต่อมาทางการจีนสามารถจับกุมตัวได้ที่เมืองคุนหมิง และส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยเมื่อวันที่ 8 ก.พ.48 ที่ผ่านมา



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์