สาวแฝด ปวช.วัย16 อุ้มท้องคู่ โวย ตร.-ทหารทําป่อง

"แม่โร่แจ้ง ลูกสาวฝาแฝด ถูกล่วงละเมิดทางเพศจนท้อง แล้วไม่รับผิดชอบ"


เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 28 มี.ค. ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น นางน้อย (นามสมมติ) อายุ 40 ปี พาบุตรสาวฝาแฝด คือ น.ส.เอ (นามสมมติ) แฝดคนโต และ น.ส.บี (นามสมมติ) แฝดคนน้อง อายุ 16 ปี นร. ปวช.ปี 1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ร้อยเอ็ด

โดยเด็กสาวทั้งคู่ตั้งครรภ์แก่ใกล้คลอด

เดินทางมาขอเข้าพบ พล.ต.ท. ศุภวุฒิ สังข์อ่อง ผบช.ภ.4 เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีบุตรสาวทั้ง 2 คน ถูกล่วงละเมิดทางเพศจนตั้งครรภ์ แต่ทาง ผบช.ภ.4 ติดราชการจึงมอบหมายให้ พ.ต.ท.วิชัย ทองคำ รอง ผกก.ฝอ.4 บก.อก.ภ.4 เป็นผู้รับเรื่องแทน

จากการสอบสวนทราบว่า

น.ส.เอ และ น.ส.บีพักอยู่กับญาติใน จ.ร้อยเอ็ด เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกันและนางน้อยผู้เป็นแม่ต้องไปทำงานต่างพื้นที่ เมื่อช่วงกลางปี 2549 น.ส.บีได้รู้จักกับชายคนหนึ่งอายุ 59 ปี อดีตข้าราชการตำรวจทางหลวงแต่ลาออกก่อนเกษียณราชการ คบหามีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง

โดยทุกครั้งจะได้เงินเป็นค่าขนม

ครั้งละ 500-1,000 บาท จนกระทั่งเดือน ต.ค. 49 น.ส.บีเกิดตั้งครรภ์จึงแจ้งให้แสดงความรับผิดชอบ แต่ถูกปฏิเสธ น.ส.บีจึงแจ้งเรื่องให้นางน้อยทราบ มีการเจรจาเรียกค่าเสียหายจำนวน 5 ล้านบาท และให้รับผิดชอบต่อเด็กในท้อง

แต่ถูกปฏิเสธ

นางน้อยจึงพา น.ส.บีเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.พิศิษฏ์ คำชัยภูมิ สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 49 ในข้อหาพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร แต่คดีไม่คืบหน้าจึงตัดสินใจพามาร้องทุกข์กับ ผบช.ภ.4 ดังกล่าว


ขณะเดียวกันนางน้อย

ยังได้แจ้งร้องทุกข์อีกคดีว่า น.ส.เอ แฝดผู้พี่ก็ตกเป็นเหยื่อสังเวยกามจนตั้งครรภ์ด้วย โดยช่วงที่ น.ส.บีแฝดผู้น้องคบหาอยู่กับอดีตตำรวจ อดีตตำรวจคนดังกล่าวได้แนะนำ น.ส.เอแฝดผู้พี่ให้รู้จักกับชายอายุประมาณ 55 ปี อ้างตัวเป็น พ.ท. นายทหารประจำค่ายประเสริฐสงคราม จ.ร้อยเอ็ด

เลยคบหามีความสัมพันธ์

ในลักษณะเดียวกับน้องสาวจนตั้งครรภ์ และฝ่ายชายที่อ้างเป็น พ.ท.ก็ไม่ยอมรับผิดชอบในสิ่งที่ก่อขึ้น จึงมีความประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดีกับชายที่อ้างเป็น พ.ท.อีกคดี เนื่องจากทำให้บุตรสาวทั้ง 2 คน ต้องพักการเรียน และเสียอนาคต

ด้าน พ.ต.ท.วิชัย ทองคำ

รอง ผกก.ฝอ. 4 บก.อก.ภ.4 กล่าวว่า คดีของ น.ส.บีแฝดผู้น้องจะประสานไปทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีที่ สภ.อ.เมืองร้อยเอ็ด ส่วนคดีของ น.ส.เอ แฝดผู้พี่ได้แนะนำให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.อ.เมืองร้อยเอ็ดซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ โดยจะติดตามผลความคืบหน้าของทั้ง 2 คดี เพื่อรายงานต่อ ผบช.ภ.4 ภายใน 7 วัน

ต่อมาเวลา 17.30 น. วันเดียวกัน

นางน้อยได้พา น.ส.เอแฝดผู้พี่เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.บรรเจิด ชมภูพฤกษ์ สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อให้ติดตามตัวชายที่อ้างว่าเป็น พ.ท.มาสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร โดยทาง พ.ต.ต.บรรเจิดได้ส่งตัว น.ส.เอแฝดผู้พี่ไปตรวจร่างกายที่ รพ.ร้อยเอ็ด

และจะนัดหมายมาให้ปากคำ

ต่อหน้าพนักงานอัยการ นักประชาสงเคราะห์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามระเบียบว่าด้วยคดีเด็กและเยาวชนอีกครั้ง ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พ.อ.ยรรยง หงษ์จุ้ย ผบ.จทบ.ร้อยเอ็ด


ระบุว่าเท่าที่ตรวจสอบในเบื้องต้น

ไม่มีชื่อนายทหารคนดังกล่าวในค่ายประเสริฐสงคราม แต่ยินดีที่จะให้ผู้เสียหายมาดูรูปเพื่อชี้ตัวให้แน่ชัดว่าเป็นใครกันแน่ หากเป็นทหารจริงก็พร้อมจะให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าว

ได้สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับคดีของ น.ส.บีแฝดผู้น้องจาก พ.ต.ท.พิศิษฎ์ คำชัยภูมิ สารวัตรเวรเจ้าของคดีระบุว่า นางน้อยพา น.ส.บี มาแจ้งความเมื่อวันที่ 27 พ.ย. แต่กว่าจะได้สอบปากคำจริงๆก็คือวันที่ 25 ธ.ค. 49

จากนั้นก็ออกหมายเรียกตัว

อดีตตำรวจที่ถูกกล่าวหามารับทราบข้อหา แต่ไม่อยู่ ไปต่างประเทศตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย. 49 จึงส่งหมายเรียกไปที่บ้านและได้ติดต่อกลับมาว่าจะกลับมาเมืองไทยช่วงเดือน ก.พ. 50 จนกระทั่งวันที่ 25 ก.พ. อดีตนายตำรวจคนดังกล่าวเข้ามอบตัวรับทราบข้อหา แต่ให้การปฏิเสธ

พร้อมทั้งระบุว่าจะไปให้การในชั้นศาล

และจะสู้คดีให้ถึงที่สุด รวมทั้งจะร้องขอให้มีการตรวจดีเอ็นเอเด็กในท้องของ น.ส.บีด้วย หลังสอบปากคำเสร็จสิ้นก็ปล่อยตัวไปและในวันที่ 29 มี.ค.นี้ จะส่งสำนวนเสนออัยการสั่งฟ้องแล้ว ไม่ได้มีเจตนาเตะถ่วงคดี ทุกอย่างทำไปตามขั้นตอนของกระบวนการสอบสวน สามารถตรวจสอบได้



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์