ถล่ม100นัด!อส.เละคารถมุ่งปมอริล้างแค้นพบพี่ถูกฆ่าปีก่อน

"ถล่มยับ 100 นัดดับแค้น อส."


คนร้ายขับปิกอัพป้ายแดงใช้อาวุธสงครามถล่ม สรบ.ดับคาที่ ระหว่างขับรถกลับบ้าน ตำรวจมุ่งประเด็นฆ่าล้างแค้น

เนื่องจากผู้ตายตกเป็นผู้ต้องหา

คดีฆ่าครอบครัวนักธุรกิจ อยู่ระหว่างขอประกันตัว ขณะที่พี่ชายเหยื่อถูกเก็บปลายปี 49 ผบก.สุราษฎร์ฯ ตั้งด่านเฝ้าระวังอาวุธสงครามใช้ก่อเหตุ ร้องทหารบกจังหวัดห้ามขายกระสุนนอกสนามยิงปืนเด็ดขาด พร้อมประสานจังหวัด-อำเภอทบทวนการซื้อและพกอาวุธปืน

คดีสะเทือนขวัญเกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.00 น.

วันที่ 27 มีนาคม ร.ต.ต.ประพันธ์ หนักแน่น ร้อยเวร สภ.อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุยิงกันตายบนถนนสายห้วยพรุน-พุมเรียง หมู่ 8 ต.ทุ่ง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ชัยศักดิ์ สินธุศักดิ์ ผกก.สภ.อ.ไชยา รับทราบ พร้อมนำกำลังและเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธา อ.ไชยา ไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถปิกอัพตอนเดียว

ยี่ห้อนิสสัน สีเขียว ทะเบียน บน 6236 สุราษฎร์ธานี จอดอยู่ สภาพด้านหน้ารถถูกยิงจนพรุน ล้อด้านหน้าถูกยิงยางรั่วทั้งสองล้อ ภายในรถด้านที่นั่งคนขับพบศพ นายโกวิทย์ ยังอ้น อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ 2 ต.ตะกรบ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี สมาชิกรักษาความสงบเรียบร้อยประจำหมู่บ้าน (สรบ.)

สภาพศพนอนตะแคงอยู่บนเบาะ

สวมเสื้ออาสาสมัครประจำหมู่บ้านสีเทา นุ่งกางเกงยีน พบว่ากระสุนปืนถูกรถและร่างกายหลายแห่ง ตั้งแต่ศีรษะ ลำตัว แขน ขา และนิ้วมือจนพรุนทั้งร่าง


ภายในรถยังพบอาวุธปืน

ของผู้ตาย 2 กระบอก เป็นปืนขนาด 11 มม. และปืนลูกซอง 5 นัด ซึ่งร่างผู้ตายทับอยู่ และพบว่าไม่มีร่องรอยการยิงต่อสู้แต่อย่างใด จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุทราบว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงทางโค้ง มีรถกระบะของคนร้ายทะเบียนป้ายแดง สีดำ ไม่ทราบยี่ห้อ ไม่ต่ำกว่า 4 คน ใช้อาวุธปืนหลากหลายชนิดยิงใส่รถของผู้ตายแบบไม่ยั้ง จากนั้นก็ขับรถหลบหนีไป

โดยตำรวจเก็บปลอกกระสุนอาวุธปืน

เอ็ม 16 จำนวน 55 ปลอก ปลอกกระสุนอาวุธปืนลูกซองสั้น 5 ปลอก และปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. 22 ปลอก ได้ในที่เกิดเหตุ หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งกำชับให้ตำรวจเร่งติดตามหาเบาะแสคนร้าย

โดยเฉพาะเรื่องที่มาของอาวุธสงคราม

เบื้องต้นสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายโกวิทย์กำลังขับรถจาก อ.ไชยา เพื่อกลับบ้านที่ ต.ตะกรบ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ มีรถกระบะขับตามหลังมาห่างๆ และก่อนที่จะถึงทางโค้งได้ขับแซงพร้อมใช้อาวุธปืนยิงถล่มใส่ทันที จนแน่ใจว่าเสียชีวิตแล้วจึงขับรถหลบหนีไป

อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวน

ได้ตั้งประเด็นแรก คือ ฆ่าล้างแค้น เพราะก่อนหน้านี้ นายโกวิทย์เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ร่วมกันฆ่าครอบครัวของ นายสุรัตน์ เศวตศิลป์ นักธุรกิจใน อ.ไชยา โดยใช้อาวุธสงครามยิงถล่มรถ ซึ่งภรรยาและลูกเสียชีวิต ขณะที่นายสุรัตน์รอดชีวิตมาได้เพราะแขวนจตุคามรามเทพ ทำให้เหรียญจตุคามรามเทพมีชื่อเสียงโด่งดังใน อ.ไชยา เหตุเกิดเมื่อปลายปี 2549 ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน นายโกวิทย์

ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่แล้ว พร้อมปฏิเสธไม่ได้เป็นคนลงมือฆ่า และอยู่ระหว่างการยื่นขอประกันตัว ที่ผ่านมาได้ระวังตัวอยู่ตลอดเวลา กระทั่งถูกตามยิงถล่มดังกล่าว นอกจากนั้นยังมีคดีพัวพันเกี่ยวกับครอบครัวของนายโกวิทย์อีกหลายคดีในพื้นที่ อ.ไชยา


โดยก่อนหน้านี้ นายศุภโชค ยังอ้น

นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตะกรบ อ.ไชยา พี่ชายของนายโกวิทย์ ก็ถูกคนร้ายยิงถล่มเสียชีวิตเมื่อปลายปี 2549 เช่นเดียวกัน กระทั่งเกิดเหตุยิงนายสุรัตน์และครอบครัวตามมา จนถึงคดีนี้ทำให้ตำรวจค่อนข้างปักใจเชื่อว่าน่าจะเป็นการฆ่าล้างแค้น

พ.ต.อ.ชัยศักดิ์ กล่าวว่า

คดีนี้นับเป็นคดีสะเทือนขวัญอย่างมาก จะเร่งติดตามหาเบาะแสคนร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ทุกคดีที่ผู้ตายมีส่วนพัวพันจะนำมาเป็นข้อมูลอ้างอิงทั้งสิ้น โดยเฉพาะที่มาของอาวุธสงคราม คงต้องประสานกับตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เข้าไปช่วยกับตำรวจในพื้นที่

ด้าน พล.ต.ต.วิบูลย์ กล่าวว่า

สำหรับประเด็นคดีนี้อยู่ที่พนักงานสอบสวน โดยได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ประวีณ พงษ์สิรินทร์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวน ร่วมกับ พ.ต.ท.วันชัย หิรัญวัฒน์ รอง ผกก.สืบสวนสอบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และตำรวจใน สภ.อ.ไชยา ร่วมคลี่คลายคดีนี้

พล.ต.ต.วิบูลย์ กล่าวอีกว่า

เกี่ยวกับเรื่องของอาวุธสงครามที่มีการนำมาก่อคดีนั้น อยู่ระหว่างการประสานกับจังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานีเพื่อเฝ้าระวัง พบปลอกกระสุนปืนและหมายเลขสามารถที่จะตรวจสอบที่มาของอาวุธได้ ที่ผ่านมาได้มีมาตรการให้ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษตั้งด่านตรวจทุกจุดที่ล่อแหลม เน้นการตรวจค้นอาวุธปืนและสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด


"คดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้น

มาจากอาวุธปืนที่ก่อเหตุ โดยได้ร้องขอจังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะในสนามยิงปืน จะไม่ให้มีการขายกระสุนปืนออกมาข้างนอก กำชับให้ซื้อและยิงได้เฉพาะในสนามยิงปืนเท่านั้น ซึ่งต้องยิงให้หมดในสนามยิงปืน ไม่ให้นำออกมาข้างนอกเด็ดขาด

นอกจากนั้น

จะประสานงานกับทางจังหวัดและอำเภอเกี่ยวกับเรื่องการอนุญาตให้ซื้อและพกพาอาวุธปืน ยอมรับว่า ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี มีการอนุญาตมาก และส่วนหนึ่งอาจทำให้เกิดอารมณ์ร้อนตัดสินกันด้วยอาวุธปืน จึงทำให้เกิดคดีสะเทือนขวัญค่อนข้างมาก" พล.ต.ต.วิบูลย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า

สำหรับคดีนี้ชาวบ้านใน อ.ไชยา ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันมากเกี่ยวกับเรื่องการฆ่าล้างแค้น เพราะเกรงว่าต่อไปอาจมีการก่อคดีลักษณะเดียวกันนี้อีก ส่วนในที่เกิดเหตุ นางสมจิตร ยังอ้น อายุ 29 ปี และ ด.ช.สมศักดิ์ ยังอ้น อายุ 7 ขวบ ภรรยาและลูกชายของนายโกวิทย์ ไปดูศพและร่ำไห้ พร้อมปฏิเสธไม่ทราบสาเหตุที่เกิดขึ้น


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์