พยัคฆ์ทมิฬส่งบินเล็กทิ้งระเบิดถล่มฐานทัพอากาศ ลังกา

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อรุ่งเช้าวันที่ 26 มี.ค. ขบวนการแบ่งแยกดินแดนพยัคฆ์ทมิฬอีแลม (แอลทีทีอี)

ส่งเครื่องบินขนาดเบาทิ้งระเบิดถล่ม

ฐานทัพอากาศคาทูนายาเกของศรีลังกา ตั้งอยู่ติดกับท่าอากาศยานนานาชาติบันดาราไนเก ห่างจากกรุงโคลัมโบไปทางเหนือ 37 กม. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ บาดเจ็บ 16 คน เดชะบุญสนามบิน ไม่ได้รับความความเสียหาย ซึ่งหลังการโจมตีสนามบินได้ปิดทำการเป็นเวลาหลายชั่วโมง ขณะที่ทางกองทัพศรีลังการะบุว่า ค่ายทหารซึ่งเป็นโรงเก็บเครื่องบินถูกโจมตีด้วยระเบิดหลายแห่ง โดยเครื่องบินไม่ได้รับความเสียหาย

เครื่องบินขนาดเบาของกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬ

บินโฉบเหนือฐานทัพอากาศ พร้อมหย่อนระเบิดลงมาหลายลูก เสียงระเบิดดังกัมปนาท 2 ครั้ง เวลาเดียวกับที่หน่วยป้องกันทางอากาศของเราดำเนินการเคลื่อนไหวและเริ่มปฏิบัติการค้นหา นาวาเอกอจันธา เดอ ซิลวา โฆษกกองทัพอากาศศรีลังกากล่าว

ด้านความเคลื่อนไหวของฝ่ายกบฏ

นายราเซียห์ อิลานธิไรยัน โฆษกกองกำลังพยัคฆ์ทมิฬ ให้สัมภาษณ์ ทางโทรศัพท์ในเวลาต่อมาว่า ภารกิจดังกล่าวประสบความสำเร็จด้วยดี เครื่องบินจากกองกำลังพยัคฆ์ทมิฬอีแลมออกปฏิบัติการโจมตีสนามบินของกองทัพศรีลังกาและโรงเก็บเครื่องบินทหาร

ก่อนบินกลับมายังฐาน

ที่มั่นทางภาคเหนือ ซึ่งถือเป็นภารกิจที่ประสบความสำเร็จ นี่ไม่ใช่การใช้สิทธิ์โจมตีก่อน แต่เป็นมาตรการคุ้มกันพลเรือนทมิฬจะได้ไม่ต้องสูญเสียชีวิตจากการทิ้งระเบิดของกองทัพศรีลังกา พร้อมกันนี้โฆษกฝ่ายกบฏยืนยันว่าจะเกิดการโจมตีแบบเดียวกันนี้เพิ่มมากขึ้น

เป็นที่น่าสังเกตว่า

การโจมตีครั้งล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากพื้นที่ทางภาคเหนือและตะวันออกของฝ่ายพยัคฆ์ทมิฬ ตกเป็นเป้าโจมตีของฝ่ายรัฐบาลเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน และนับเป็นการโจมตีทางอากาศครั้งแรกของฝ่ายกบฏในรอบหลายปี ซึ่งฝ่ายพยัคฆ์ทมิฬปฏิบัติ การโจมตีสนามบินนานาชาติครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2544 การโจมตีครั้งนั้นทำให้เครื่องบินของสายการบินศรีลังกาได้รับความเสียหายกว่าครึ่ง

นายปีเตอร์ ฮิลล์ ผู้อำนวยการบริหารสายการบินศรีลังกา

เปิดเผยว่า ทางสายการบินจะเรียกร้องไปยังรัฐบาลศรีลังกา ขอให้ทำอะไรบางอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้ เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นอีก อนึ่ง สงครามกลางเมืองในศรีลังกา ซึ่งเริ่มขึ้นนับตั้งแต่ปี 2526 ที่ฝ่ายพยัคฆ์ทมิฬ

อ้างว่ากำลังต่อสู้เพื่อเอกราช

ให้ชนกลุ่มน้อยชาวทมิฬทางภาคเหนือและตะวันออกศรีลังกา จนถึงขณะนี้ได้คร่าชีวิตประชาชนไปราว 68,000 ราย ประชาชนอีกหลายแสน คนกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย ซึ่งปัจจุบันยังมีประชาชนอีกจำนวนมากต้องพักอาศัยอยู่ตามค่ายผู้ลี้ภัย.