ชิงจตุคาม ปล้นลูกขุนพันธ์ ยิงไส้แตก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 01.10 น. คืนวานนี้ (26 มี.ค.) พ.ต.ท.จรวย ชูมณี สารวัตรเวร สภ.ต.ชะเมา อ.เมืองนครศรีธรรมราช

รับแจ้งมีเหตุปล้นทรัพย์

ภายในบ้านเลขที่ 109/1 หมู่ 4 บ้านแคสูง ต.ท่าเรือ อ.เมืองนครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.พิรุณ กลัดทอง รอง ผกก.หน.สภ.ต.ชะเมา พ.ต.ท.เกวลิน พรหมเจริญ สวป. นำกำลังรุดไปที่เกิดเหตุ

สอบสวนนางวันดี เปี่ยมมอบ อายุ 42 ปี

เจ้าของบ้าน ให้การว่า ขณะเกิดเหตุกำลังนอนหลับอยู่ในห้อง จู่ๆก็มีคนร้าย 3 คน อาวุธปืนสั้นครบมือ งัดประตูห้องครัวหลังบ้านบุกเข้าจี้บังคับพาไปรวมกับคนอื่นๆในบ้านที่ถูกจับออกมานั่งรวมตัวกันในห้องโถงกลางบ้าน คนร้ายสั่งให้บอกที่ซ่อนวัตถุมงคลชื่อดัง จตุคามรามเทพ ที่นางวันดีเก็บสะสมไว้หลายรุ่น

รวมทั้งเหรียญที่ระลึก

ในงานพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดชแต่นางวันดีขายให้เพื่อนฝูงไปหมดแล้ว เหลือแต่ที่เลี่ยมทองใส่อยู่บนคอรวม 3 ชนิด คือ ดวงตราจตุคามรามเทพรุ่นฟ้าประทานและรุ่นเทพประทานพร วัดมะม่วงสองต้นอย่างละเหรียญ ส่วนอีกชิ้นคือเหรียญที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ต.ขุนพันธ์ โดยด้านหน้าเหรียญเป็นรูปเหมือนท่านขุนพันธ์

ส่วนด้านหลังเป็นรูปพระบรมธาตุเจดีย์ฯ

มีจตุคามรามเทพอยู่ด้านซ้ายและขวาของเหรียญ ถูกคนร้ายบังคับถอดเอาไปพร้อมสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น เงินสด 4,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เดินไปขึ้นรถกระบะแบบตอนครึ่งมอง ไม่เห็นป้ายทะเบียนขับหลบหนีไป

ระหว่างที่ พ.ต.ท.จรวย ชูมณี สารวัตรเวร สภ.ต. ชะเมา

กำลังสอบปากคำนางวันดีและตรวจเก็บหลักฐานคนร้ายในที่เกิดเหตุ ก็ได้รับแจ้งจากทางศูนย์วิทยุของโรงพักว่าเกิดเหตุปล้นทรัพย์อีกราย และเจ้าของบ้านยิงคนร้ายเสียชีวิตหน้าบ้านเลขที่ 55/15 ตรงข้ามโรงเรียนวัดหมน ถนนสายนครศรีธรรมราช-สงขลา หมู่ 15 ต.ท่าเรือ อ.เมืองนครศรีธรรมราช อยู่ห่างจุดเกิดเหตุแรกไปประมาณ 12 กม. จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถว 2 ชั้นตั้งอยู่ริมถนน

บริเวณหน้าประตูบ้านพบศพชายนิรนาม อายุประมาณ 30-35 ปี สูง 165 ซม. ไว้หนวด สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ มีเสื้อแขนยาวลายพรางทหารคลุมทับชั้นนอก นุ่งกางเกงขายาวสีเขียวแบบทหาร ใส่รองเท้าแตะ นอนหงายเหยียดยาวจมกองเลือด มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนลูกซองเข้าที่หน้าท้องเป็นรูพรุนฉีกขาด ไส้ทะลักสุดสยอง พบอุปกรณ์ที่ใช้ในการงัดแงะ เช่น ไขควง และคีมล็อก ตกอยู่ข้างศพจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนนายจำนงค์ บุษบรรณ อายุ 51 ปี

เจ้าของบ้าน ที่ยืนถือปืนลูกซองยาวแบบ 5 นัด รอมอบตัวกับทางตำรวจ ระบุว่า กำลังนอนหลับอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงผิดปกติที่หน้าประตูบ้าน จึงออกมาดูพร้อมทั้งถือปืนลูกซองแบบ 5 นัด ติดมือออกมาด้วย พบผู้ตายกำลังงัดแงะประตูหน้าบ้าน โดยมีคนร้ายอีก 2 คนถือปืนสั้นคุมเชิงอยู่ข้างๆ

ส่วนคนร้ายอีกคนนั่งอยู่บนรถกระบะ

แบบตอนครึ่งมองไม่เห็นป้ายทะเบียน จึงยิงปืนขู่ไป 1 นัด กระสุนถูกผู้ตายล้มฟุบลงกับพื้น ส่วนคนร้ายที่เหลือรีบขึ้นรถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว จากการตรวจสอบภายในบ้านของนายจำนงค์พบวัตถุมงคลชื่อดัง จตุคามรามเทพ ตั้งแต่รุ่นแรกเมื่อปี 2530 และรุ่นดังๆอีกหลายสิบรุ่นจำนวนเกือบ 2,000 องค์ บรรจุไว้ในกล่อง 15 ใบ เก็บอย่างมิดชิด

ทั้งนี้ นายจำนงค์ระบุว่าเป็นลูกบุญธรรม

ของ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช โดยให้ความเมตตาเรียกชื่อเล่นว่าจ่าพันธ์ คอยติดตามไปประกอบพิธีปลุกเสกเครื่องรางของขลังรุ่นต่างๆมานับไม่ถ้วน และได้แบ่งเก็บสะสมไว้ส่วนหนึ่ง จึงตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มโจรที่ต้องการปล้นชิงเพื่อจะนำไปขายหาผลกำไร

ด้าน พ.ต.ท.จรวย ชูมณี สารวัตรเวรเจ้าของคดี

กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของผู้เสียชีวิตกำลังตรวจสอบว่าเป็นใครเพื่อใช้เป็นเบาะแสในการคลี่คลายคดี ทั้งนี้ได้เชิญตัวคนในบ้านของนางวันดีผู้เสียหายรายแรกมาดูศพยืนยันว่าเป็น 1 ในแก๊งคนร้ายที่บุกปล้นบ้านชิงเครื่องรางชื่อดังไป คาดว่าหลังจากก่อเหตุที่บ้านนางวันดีแล้ว ก็เตรียมบุกเข้าปล้นบ้านนายจำนงค์เป็นรายที่สอง

เพราะรู้ว่าเป็นลูกบุญธรรมของท่านขุนพันธ์

และเก็บสะสมเครื่องรางจตุคามรามเทพไว้เป็นจำนวนมาก แต่มาพลาดท่าถูกยิงเสียชีวิตไปก่อน อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหากับนายจำนงค์ว่าฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และจะตรวจ สอบพยานหลักฐานต่างๆดูว่าเป็นการป้องกันตัวเองและทรัพย์สินที่สมเหตุผลหรือไม่ ก่อนจะทำสำนวนเสนอถึงอัยการพิจารณาสรุปว่าจะฟ้อง หรือไม่ฟ้องต่อไป