ร้องปราบผีแบงก์หากินทั่วระยอง

"ขายบริการกันโจ๋งครึ้ม หน้าแบงก์"


ชาวบ้านร้องหญิงบริการเกร่อเมืองระยอง เดินขายบริการกันโจ๋งครึ่มโดยเฉพาะข้างธนาคาร นวลนางทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่กว่า 20 คนยึดเป็นทำเลทองหาลูกค้า ตั้งแต่หัวค่ำยันดึกเรียกขาน "ผีแบงก์" มายาวนาน โวยเสียภาพพจน์จังหวัด อยู่ใกล้ทั้งศาลหลักเมือง วัด และโรงเรียน

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 25 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบบริเวณข้างธนาคารกรุงเทพ สาขาระยอง ริม ถ.สุขุมวิท เขตเทศบาลนครระยอง อ.เมือง จ.ระยอง หลังจากที่ได้รับการร้องเรียนจากชาวระยองว่ามีผู้หญิงจำนวนมากมาอาศัยทำเลข้างธนาคารดังกล่าว เป็นที่ตั้งสำหรับขายบริการกับบรรดาชายหนุ่มกลัดมัน จนชาวระยองตั้งฉายาว่า "ผีแบงก์" เพราะมีพฤติกรรมมายืนขายบริการอยู่ข้างธนาคาร

เมื่อเดินทางไปถึงบริเวณดังกล่าว ซึ่งอยู่ติดกับป้อมยามตำรวจจราจร สภ.อ.เมืองระยอง พบว่ามีบรรดาหญิงสาวยืนเกาะกลุ่มกันอยู่ประมาณ 20 คน ตั้งแต่อายุประมาณ 25 ถึง 40 ปี ที่อาศัยยืนอยู่ด้านหน้าธนาคารและด้านข้าง หลังจากจอดรถสังเกตการณ์อยู่ครู่หนึ่งก็พบว่ามีบรรดาลูกค้าที่ส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่น ขับรถมอเตอร์ไซค์มาจอด แล้วก็มีหญิงสาวที่มีอายุ คาดว่าคงเป็นหัวหน้าทีมเข้าไปเจรจา หลังจากนั้นก็เห็นว่าหญิงสาวที่ถูกเลือกตัวสะพายกระเป๋าหิ้วเดินขึ้นรถของลูกค้าหายไป เวลาเพียง 1 ชั่วโมงมีบรรดาชายหนุ่มมาใช้บริการกว่า 10 ราย ซึ่งก็ผลัดกันเข้ามาเป็นระยะ จนทำให้บริเวณข้างธนาคารซึ่งมีแสงไฟสลัวคึกคักอย่างกับสถานที่ท่องเที่ยว เพราะจะมีรถวิ่งเข้าออกบริเวณดังกล่าวเพื่อมาใช้บริการอยู่ตลอดเวลา

"มีตั้งแต่ นักเรียน จนถึงแม่บ้าน"


จากการสอบถามนางจุ๋ม (นามสมมติ) ผีแบงก์รุ่นใหญ่ เปิดเผยว่า ก่อนที่จะมายึดทำเลข้างธนาคารเป็นสถานที่ขายบริการ เมื่อหลายปีที่ผ่านมาทำงานอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งใกล้กับธนาคารดังกล่าว แต่โรงแรมปิดตัวลง จึงได้พารุ่นน้องอาชีพเดียวกันมายึดข้างธนาคารเป็นที่ทำกิน โดยจะคิดราคาค่าบริการ 500-1,000 บาท ขึ้นอยู่กับความสวยและอายุ โดยใช้โรงแรมที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 1 ก.ม.ที่ได้ตกลงราคาพิเศษกันไว้ เป็นที่บำเรอชายหนุ่มที่มาใช้บริการ แต่ทุกคนก็จะต้องเสียเงินค่าเจ้าที่ ซึ่งจะมีคนมาเก็บเป็นรายเดือน โดยต้องเสียคนละ 500 บาทต่อเดือนให้กับคนดูแล ซึ่งเป็นขาใหญ่อยู่ในซอย โดยอ้างว่าจะไปส่งให้นาย เพื่อให้ทำงานกันอย่างราบรื่น

สาวคนดังกล่าวยอมรับอีกว่า ได้มายึดสถานที่แห่งนี้มากว่า 5 ปีแล้ว ซึ่งก็ถือว่าเป็นรายได้ดี เพราะไม่รู้จะไปทำอาชีพอะไร เพราะไม่มีความรู้ และบรรดาสาวๆ ที่เข้ามายึดอาชีพมีตั้งแต่เด็กนักเรียน จนยันแม่บ้าน ออกมาทำงาน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะขัดสนเรื่องเงิน และหาทางออกไม่เจอ จึงมาทำงานดังกล่าว ซึ่งหากความจริงแล้วก็ไม่มีใครอยากจะยึดอาชีพนี้ เพราะเป็นงานที่สังคมรังเกียจ แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อปากร้องท้องมันหิว บางคนยังมีภาระที่ต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นบุพการี และบุตร จึงต้องการให้สังคมเข้าใจว่าหากเราเลือกได้เราก็จะไม่ทำ พวกเราทุกคนต่างก็ต้องการทำงานที่สังคมยอมรับ แต่มาทำเพราะความจำเป็น

"เตือน ท่านชาย ระวังติดเอดส์ เร่งหาทางแก้ไข"


ทางด้านผู้ที่ใช้รถราผ่านไปมาบริเวณดังกล่าว ต่างก็กล่าวว่า เมื่อขับผ่านก็มีผู้หญิงมาดักที่รถยนต์ และเคาะกระจกให้จอด และเข้ามาพูดคุยชักชวนให้ไปหลับนอน แต่หากว่ามากับครอบครัวหรือมากันหลายคนก็ไม่เรียก โดยต้องเน้นว่าเป็นผู้ชายจึงรีบปรี่เข้ามาหาทันที อีกทั้งทางด้านธนาคารเคยมาตัดต้นเฟื่องฟ้าที่เป็นรั้วเดิมออกไปเพื่อให้ดูโล่งโปร่งขึ้น แต่ผู้หญิงเหล่านี้ก็ยังคงมายืนหาบริการอยู่เช่นเดิม

สำหรับชาวระยองส่วนใหญ่จะรู้เกี่ยวกับเรื่องของ "ผีแบงก์" เพราะมีมานาน ส่วนใหญ่ต่างก็ต้องการให้ปราบปรามอย่างจริงจัง เพราะถือเป็นความเสียหายต่อภาพพจน์ของจังหวัด เพราะทำเลที่ "ผีแบงก์" ยึดเป็นหัวหาดทำมาหากินอยู่ตรงข้ามกับศาลหลักเมืองระยอง และยังอยู่ใกล้กับวัดวาอารามและโรงเรียนและป้อมตำรวจ บางครั้งมายืนกอดจูบลูบคลำกันริมถนน จึงเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม เพราะถนนเส้นดังกล่าวในช่วงหัวค่ำจะมีทั้งเด็กนักเรียนและเยาวชนมารอรถประจำทางกันจำนวนมาก กลัวจะทำให้เอาไปเป็นแบบอย่าง จึงถือว่าไม่เหมาะสม ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยจัดการเรื่องดังกล่าวด้วย เพราะไม่เหมาะสม และเสื่อมเสียต่อจังหวัดระยอง

นายแพทย์วิวัฒน์ วิรยะกิจจา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ถือว่าไม่เหมาะสม และยังเป็นแหล่งแพร่เชื้อเอดส์ เพราะผู้หญิงที่ไปทำมาหากินดังกล่าวนั้นเป็นที่ที่ไม่เหมาะสมไม่มีการตรวจโรคเป็นประจำ จึงมีอัตราเสี่ยงสูง จึงอยากฝากเตือนท่านชายที่เมาแล้วใจถึงจงระวัง เพราะมันไม่คุ้มหากติดเชื้อ และที่สำคัญการมีเพศสัมพันธ์ต้องไม่ลืมถุงยางอนามัย ทางตนเองก็เตรียมที่จะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบเพื่อแนะนำ เพื่อให้เข้ามาตรวจโรค ก็เตรียมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจลงไปเพื่อให้มีการห้ามไม่ให้มีการขายบริการดังกล่าว เพราะถือว่าเสื่อมเสียต่อภาพพจน์ของจังหวัดด้วย และผิดกฎหมายด้วย พร้อมทั้งยังเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อร้ายด้วย

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์