รวบผัวหึงโหด ฆ่าหั่นศพเมีย!

จากกรณีพบศพหญิงสาว อายุประมาณ 30-35 ปี สูงประมาณ 155-160 ซ.ม. ถูกฆ่าหั่นศพแยกส่วนศีรษะ ลำตัว แขน ขา เท้า ใส่ถุงปุ๋ยสีขาว 4 ใบ และถุงดำ 1 ใบ รวม 5 ใบ วางทิ้งอยู่ในป่าใต้สะพานลอยต่างระดับแก่งคอย-บ้านนา ต.แก่งคอย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยที่ศีรษะมีที่คาดผมเป็นโบหูกระต่ายสีชมพู เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 เดือน

ต่อมามีนายกมลชาติ แก้วทอง อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 2 ต.ดอนใหญ่ อ.คง จ.นครราชสีมา เดินทางมาขอดูภาพศพหญิงสาวคนดังกล่าว โดยให้การว่า ภรรยาชื่อน.ส.วรรณวิมล ม้าเทศ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/26 หมู่ 10 ต.บ้านป่า อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ได้หายตัวไปจากบ้านพัก แต่จากการตรวจสอบดูภาพชิ้นส่วนศพกับเสื้อผ้าแล้ว ยืนยันไม่ใช่ภรรยาตัวเอง เจ้าหน้าที่จึงให้นายกมลชาติ นำบุตรสาวมาตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอ แต่นายกลมชาติไม่ได้พาบุตรสาวมาให้ตรวจแล้วยังหายตัวไป

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 พ.ค. พนักงานสอบสวน สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี ได้รับผลการตรวจดีเอ็นเอจากแพทย์นิติเวชร.พ.ตำรวจ ยืนยันว่าศพหญิงสาวคนดังกล่าวคือน.ส.วรรณวิมล ม้าเทศ อายุ 30 ปี หลังจากเจ้าหน้าที่พาบิดาและมารดาน.ส.วรรณวิมล ไปตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอกับศพหญิงสาว แล้วปรากฏว่ามีดีเอ็นเอตรงกัน ตามที่ข่าวสดได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 26 พ.ค. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.จักรกฤช วีระเดช ผกก.สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี ร่วมกันแถลงจับกุมนายกมลชาติ แก้วทอง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 2 ต.ดอนใหญ่ อ.คง จ.นครราชสีมา ตามหมายจับศาลจังหวัดสระบุรี ที่ จ.244/2558 ลงวันที่ 26 พ.ค.2558 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้นหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือสาเหตุการตาย

โดยพล.ต.ท.อำนวย เปิดเผยว่า นายกมลชาติ เป็นสามีของน.ส.วรรณวิมล ผู้เสียชีวิต มีอาชีพเป็นพ่อครัวอยู่ที่จ.ยะลา ก่อนหน้านี้เคยมาขอดูหลักฐานศพหญิงสาว แล้วอ้างว่าไม่ใช่ภรรยาตัวเองที่หายตัวไป แต่เมื่อตำรวจให้นำลูกสาววัย 5 ขวบมาตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอ นายกมลชาติก็หายตัวไป เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวบิดา มารดา ของน.ส.วรรณวิมล ไปตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับศพผู้ตาย จนกระทั่งผลตรวจออกมาปรากฏว่าดีเอ็นเอเข้ากันได้ ทำให้ทราบว่าศพหญิงสาวคนดังกล่าวคือน.ส.วรรณวิมล

"จากการตรวจสอบการใช้โทรศัพท์มือถือ ที่นายกมลชาติอ้างว่าได้ทำหายไปนั้น ปรากฏว่ามีการใช้งานอยู่ที่จ.ยะลา และจากการตรวจสอบประวัติยังพบว่านายกมลชาติ เคยทำงานรับจ้างแล่เนื้อหมูอยู่ที่อ.แก่งคอย ก่อนจะไปทำงานเป็นพ่อครัวจึงมีความชำนาญในการใช้มีด ซึ่งตรงกับสภาพศพที่ถูกหั่นออกเป็นหลายส่วน รวมทั้งจากพยานหลักฐานอื่นๆ จึงทำให้น่าเชื่อได้ว่าคนร้ายคือนายกมลชาติ ตำรวจจึงได้นำพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดสระบุรีออกหมายจับ ก่อนไปติดตามจับกุมตัวได้ที่จ.ยะลา" พล.ต.ท. อำนวยกล่าว

ส่วนนายกมลชาติรับสารภาพว่า ทำไปลงไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบบวกกับความหึงหวง ก่อนหน้านี้เช่าห้องพักเลขที่ 258/1 หมู่ 11 ต.บ้านป่า อ.แก่งคอย จ.สระบุรี พักอาศัยอยู่ด้วยกัน จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 11 พ.ย.2557 เกิดมีปากเสียงทะเลาะกับผู้ตายอย่างรุนแรงเรื่องความหึงหวง โดยผู้ตายได้พูดจาท้าทายแล้วหยิบมีดปาดตาลยาวประมาณ 1 ฟุต มาจ่อหน้าอกตัวเอง ตนจึงเข้าไปยื้อแย่งจนผู้ตายล้มลงกับพื้นแล้วถูกมีดแทงเข้าหน้าอกเสียชีวิต

" จากนั้นตนลากศพเข้าไปในห้องน้ำแล้วใช้มีดหั่นแยกชิ้นส่วนศพยัดใส่ถุงปุ๋ย 3 ใบ ส่วนอีก 2 ใบใช้ใส่เสื้อผ้าผู้ตาย แล้วขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นเฟรช สีขาว ทะเบียน คบพ 355 นครราชสีมา นำถุงเสื้อผ้ามาทิ้งที่ปากทางก่อน จากนั้นช่วงค่ำจึงเอากระสอบใส่ศพใส่ตะกร้ามัดยางรัดที่เบาะหลัง ที่เหลือจับวางไว้ที่หว่างขาด้านหน้ารถจักรยานยนต์ ขี่ตระเวนไปหาที่ทิ้ง จนกระทั่งเอาไปโยนทิ้งไว้ใต้สะพานต่างระดับห่างจากบ้านพักประมาณ 2 ก.ม. ก่อนจะหนีไปทำงานที่จ.ยะลา แล้วจึงย้อนกลับมาทำทีตามหาตัวภรรยา จนกระทั่งถูกจับได้ในที่สุด" นายกมลชาติสารภาพ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้นหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือสาเหตุการตาย ส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป