ร้อนจัดมะนาวสองแควพุ่งใบละ8บาท

ร้อนจัดมะนาวสองแควพุ่งใบละ8บาท

อากาศร้อนจัดราคามะนาวเมืองสองแถวพุ่งสูง ใบละ 8 บาท อบจ.ลำพูนส่งเสริมการปลูกไผ่หวานเป็นพืชทดแทนลำไยสร้างรายได้ เกษตรกรและบริษัทเมล็ดพันธุ์ฝรั่งเศสอุทธรณ์การห้ามจีเอ็มโอ องค์กรรักสัตว์ยื่นหนังสือสภาเร่งผ่านกฎหมายป้องกันทรมานสัตว์  

เมื่อวันที่ 5 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่ตลาดพิษณุโลกร่วมใจ(ตลาดเทศบาลฯ 6) ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก  มีการติดป้ายบอกราคา10 ใบ 80 บาท  โดยแม่ค้าบอกว่า มะนาวขนาดเบอร์ 0 ราคาแพงใบละ 8 บาท เนื่องจากผู้ที่ปลูกสวนมะนาวประสบกับอากาศที่ร้อนจัดทำให้มะนาวลูกใหญ่ออกผล ผลิตน้อยและไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าที่เดินทางมาซื้อมะนาวลูกใหญ่ เบอร์ 0 เพื่อนำไปประกอบอาหารหรือว่าจะเป็นผู้ประกอบการร้านอาหาร

เมื่อสวนมะนาวภายในจังหวัดพิษณุโลกออกผลผลิตไม่ทันและไม่เพียงพอ จึงทำให้ร้านค้าส่งต้องเดินทางไปรับมะนาวจากจังหวัดพิจิตร และจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อนำมาจำหน่ายให้กับลูกค้า และรับมะนาวมาจากพ่อค้าขายส่งอีกทอดหนึ่ง ซึ่งต้องรับมาขายนั้นราคาจะตกอยู่ที่ใบละ 7 บาท แล้วทำให้ต้องขายในราคาใบละ 8 บาท ส่วนราคาของมะนาวลูกเล็กลงไปมะนาวเบอร์ 1 ราคาขายจะอยู่ที่ใบละ 5 บาท 50 สตางค์ ส่วนมะนาวแท้ที่คั้นแล้วบรรจุใส่ขวดปริมาณ 600 มล. จะมีราคาขายอยู่ที่ 450 บาท เลยทีเดียว โดยส่วนใหญ่นั้นมะนาวที่มีขนาดเล็กเบอร์ 3 และเบอร์ 4 จะมีผลผลิตที่เยอะกว่า เบอร์ 0 และเบอร์ 1 จึงทำให้ราคามะนาวเบอร์ 0 ยังคงสูงต่อเนื่อง

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ราคามะนาวจะยังคงสูงต่อเนื่องต่อไป อาจจะมีการปรับราคาขึ้นอีกเล็กน้อย เนื่องจากขาดแคลนแรงงานในการเก็บมะนาวตามสวนต่าง ๆ


อบจ.ลำพูนส่งเสริมการปลูกไผ่หวานเป็นพืชทดแทนลำไยสร้างรายได้

เมื่อเวลา 11.00 น. องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน โดยนายทรงชัย วงศ์สวัสดิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน จัดงานไผ่หวานที่บ้านปวง ประจำปี 2555 ณ สวนไผ่ศรีทน บ้านล้องสันติสุข ตำบลบ้านปวง อำเภอทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน สนับสนุนการสร้างอาชีพให้กับเกษตรกร นายทรงชัย เปิดเผยว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ได้ดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนการปลูกไผ่หวานอย่างต่อเนื่อง และร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอำเภอทุ่งหัวช้าง พร้อมสมาชิกชมรมคนรักไผ่ จัดงานไผ่หวานที่บ้านปวง

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการสร้างอาชีพให้กับเกษตรกร ส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ปรับสมดุลทางระบบนิเวศวิทยาและรักษาสภาพสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการสร้างรายได้ให้กับประชาชนในอำเภอทุ่งหัวช้าง การจัดงานที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี มีผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง และมีผู้สนใจหันมาปลูกไผ่หวานเป็นรายได้เสริมเพิ่มมากขึ้น
 
นายขยัน วิพรหมชัย นายกเทศมนตรีตำบลอุโมงค์ ในฐานะผู้ที่สนใจและส่งเสริมสนับสนุนให้ชาวบ้านในตำบลบ้านปวงปลูกไผ่หวาน ได้ให้คำนิยามจำกัดความเกี่ยวกับไผ่หวาน อย่างน่าสนใจว่า "ไผ่หวาน" มีชื่อพื้นเมืองว่า ไผ่หวาน หรือ ไผ่บงหวาน ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Bambusa Sp. ชื่อวงศ์ Gramineae พบมากในทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะที่จังหวัดเลย จะพบไผ่หวานที่จัดว่ามีคุณภาพดีที่สุดอยู่มากมายเป็นไผ่ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ลักษณะกอหุ้มแน่น ลำต้นมักคดงอ เนื้อในตันไม่กลวงแตกกิ่งประมาณ 2-5 กิ่งตลอดลำ มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3-5 เซนติเมตร สูงประมาณ 5-8 เมตร หน่อของไผ่หวานมีลักษณะเล็ก หน่อมีสีเขียวหนักประมาณ 200-300กรัม เนื้อละเอียดเหมือนหน่อไผ่ป่า รสชาดหวาน มัน กรอบ อร่อยสามารถรับประทานสดได้

การปลูกไผ่หวาน เพื่อสร้างรายได้อีกทั้งยังมุ่งหวังรักษาสายพันธุ์ท้องถิ่นและมุ่งหวังในการ ขยายสายพันธุ์ไปทุกส่วนภูมิภาคโดยส่งเสริมแก่ผู้สนใจนำไปปลูกเพื่อเก็บ เกี่ยวผลผลิตสำหรับรับประทานสร้างเป็นรายได้เสริม และรายได้หลักอย่างมั่นคงและได้รับความสนใจเป็นอย่างสูงจากเกษตรกรทั่วไปใน

ขณะนี้ยังได้พิจารณาไปถึงการลงทุนของเกษตรกรให้เกิดความคุ้มค่าที่สุดจึง เลือกวิธีที่เหมาะสมด้วยการเพาะกล้าพันธุ์ด้วยเมล็ด ซึ่งจะมีอายุการเก็บเกี่ยวยาวนาน 30-50 ปี นานกว่าการปลูกด้วยวิธีอื่น ซึ่งมีอายุการเก็บเกี่ยวเพียงไม่กี่ปี ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย เวลา และแรงงาน

อีกทั้งยังสามารถเก็บเกี่ยวได้อย่างต่อเนื่อง การขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ดมีวิธีการโดยการจัดเก็บเมล็ดไผ่แก่ที่ร่วงหล่นสู่ พื้นดินซึ่งสร้างความมั่นใจได้ว่าเป็นเมล็ดแก่ที่แท้จริง นำไปเพาโดยการหว่านลงในกระบะเพาะหรือแปลงเพาะที่เตรียมดินไว้แล้ว รดน้ำทุกวันประมาณ 7-10 วันเมล็ดจะเริ่มงอก ประมาณ3-4 สัปดาห์ย้ายกล้าลงชำในถุงพลาสติกที่เตรียมดินใส่ไว้ รดน้ำทุก 2-3 วัน ประมาณ 2 เดือน ก็สามารถนำไปปลูกได้ในที่สุด”


อาร์เจนตินาพัฒนาสายพันธุ์ถั่วเหลืองGMหวังส่วนแบ่งมอนซานโต

สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ(มกอช.) รายงานว่าทีมวิจัยจากอาร์เจนตินาร่วมมือกับสหรัฐในการผลิตถั่วเหลืองดัดแปลง พันธุกรรม (GM) หวังพัฒนาสายพันธุ์ออกสู่ตลาดภายในปี 2015-2016 โดยมีคุณสมบัติต้านทานสารกำจัดวัชพืช glyphosate, ทนแล้ง และเจริญเติบโตเร็ว มีเป้าหมายส่งออกสู่แหล่งผลิตสำคัญ ได้แก่ อเมริกาใต้, สหรัฐ, จีน และอินเดีย

Verdecas เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Bioceres ที่ผู้ถือหุ้นกว่า 230 คน เป็นเกษตรกรในอาร์เจนตินาที่มีพื้นที่ปลูกรวมกันมากกว่า 2.5 ล้านเฮกเตอร์ (15.6 ล้านไร่) และบริษัท Arcadia ของสหรัฐ ตั้งเป้าหมายพัฒนาสายพันธุ์ถั่วเหลืองให้ทันการสิ้นสุดสิทธิบัตรในการผลิต ถั่วเหลืองต้านทานสารกำจัดวัชพืช glyphosate ของบริษัทมอนซานโต ในปี 2014 ปัจจุบันมอนซานโตครอบครองส่วนแบ่งใหญ่ในตลาดโลก โดยเฉพาะถั่วเหลือง และพืชดัดแปลงพันธุกรรมภายใต้เครื่องหมายการค้า Roundup-ready ที่พัฒนาตั้งแต่ปี 1996


เกษตรกรและบริษัทเมล็ดพันธุ์ฝรั่งเศสอุทธรณ์การห้ามจีเอ็มโอ

สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ(มกอช.) รายงานว่า  เกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และบริษัทเมล็ดพันธุ์ฝรั่งเศสอุทธรณ์การห้าม เพาะปลูกสายพันธุ์ข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรมต่อศาลสูงสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ผ่านมา โดยอ้างว่ามันเป็นการไม่ยุติธรรมต่อเกษตรกรและเป็นการทำลายเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ฝรั่งเศสออกประกาศห้ามชั่วคราวการปลูกข้าวโพดจีเอ็มโอของมอนซานโต MON810 เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ภายหลังจากการเลื่อนชำระหนี้ก่อนหน้านี้เป็นโมฆะ โดยคำสั่งศาลบนพื้นฐานของความไม่เป็นธรรม ฝรั่งเศสซึ่งจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนหน้าและจากการที่ประชาชนมี ความเห็นคัดค้านอย่างรุนแรงต่อผลิตภัณฑ์ดัดแปลงพันธุกรรม (GMO) ได้เรียกร้องคณะกรรมาธิการยุโรปให้ระงับการอนุญาตเพาะปลูกข้าวโพดจีเอ็มโอ ชนิดทนทานแมลง โดยที่พืชดังกล่าวเป็นพืชจีเอ็มโอเพียงชนิดเดียวที่อนุญาตให้เพาะปลูกใน สหภาพยุโรป ทั้งนี้ บริษัทมอนซานโตกล่าวว่าข้าวโพดจีเอ็มโอมีความปลอดภัยที่สุด


องค์กรรักสัตว์ยื่นหนังสือสภาเร่งผ่านกฎหมายป้องกันทรมานสัตว์

ที่หน้ารัฐสภา สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย TSPCA และภาคีผู้รักสัตว์ทั่วประเทศกว่า 30 องค์กร พร้อมดารานักแสดงชื่อดัง อาทิ ตอง ภัครมัย โปรตะนันท์ เก๋ ชลดา เมฆราตรี โบว์ เบญจศิริ และนายดนัย ตันธนะศิริวงศ์ (เจสซี่) และกลุ่มคนรักสัตว์ได้เดินทางมารวมตัวกันที่หน้ารัฐสภา เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งพิจารณาร่างพ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรม และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ... พร้อมนำรายชื่อประชาชนจำนวน 12,000 รายชื่อสนับสนุนร่างดังกล่าวเพื่อยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยระบุว่าขอให้รัฐบาลจริงใจผ่านกฎหมายดังกล่าว เพื่อให้มีผลบังคับใช้จริง และเป็นการคุ้มครองสัตว์ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นให้มีความทัดเทียมกับนานาอารยประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการรวมตัวของกลุ่มคนรักสัตว์ที่หน้าบริเวณรัฐสภาได้ มีการฉายวีดีโอภาพนิ่ง และการแสดงตีแผ่การทารุณกรรมสัตว์ที่เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย และได้ชูป้ายคัดค้านการทารุณกรรมสัตว์ โดยมีข้อความต่าง ๆเช่น หยุดรังแกสัตว์เสียที อย่าทรมานสัตว์ และนำคนที่แต่งตัวเป็นสัตว์เข้าไปอยู่กรงสัตว์ พร้อมกันนี้ได้มีการแต่งตัวเป็นมาสคอร์ตสัตว์ต่าง ๆ เช่น หมี ช้าง แมว สุนัข จากนั้นได้เข้ายื่นหนังสือกับนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฏรคนที่หนึ่ง เพื่อให้สภาเร่งผ่านกม.ดังกล่าวเพื่อให้มีผลบังคับใช้ในทางปฏิบัติ


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์