ธปท. ย้ำดูแลระบบแบงก์ทำงานได้ต่อเนื่อง เผยล่าสุดแบงก์แจ้งปิดให้บริการ 631 สาขา

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ตภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต


นางสาลินี วังตาล  ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)  กล่าวว่า
 
ได้มีการประชุมร่วมกับธนาคารพาณิชย์ไทย สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมซึ่งเริ่มส่งผลกระทวงกว้างในหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ ชั้นในอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าระบบสถาบันการเงินจะสามารถดำเนินการได้ต่อเนื่อง และสามารถดำเนินมาตการที่จำเป็นทันท่วงที เพื่อดูแลลูกค้า และสนับสนุนให้ระบบการเงินของประเทศดำเนินการต่อไปได้ สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน นักธุรกิจและนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

            

อย่างไรก็ตาม น้ำท่วมที่ส่งผลกระทบวงกว้างในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ ชั้นใน ขณะนี้ได้ครอบคลุมถึงบริเวณสำนักงานใหญ่ของสถาบันการเงินบางแห่ง เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารทหารไทย  ส่งผลต่อการสัญจรของลูกค้าและพนักงานของธนาคาร แต่ทั้งสองแห่งมีเจตนารมณ์ที่จะดูแลลูกค้าให้ได้รับบริการอย่างต่อเนื่อง จึงได้ดำเนินการตามแผนรองรับสถานการณ์น้ำท่วมที่เตรียมไว้เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการให้บริการด้านการเงินต่างๆ ยังดำเนินการได้ปกติ  โดย
           

1.ย้ายที่ทำงานบางส่วนไปปฏิบัตงานที่ศูนย์สำรองของธนาคาร

หรือใช้การปฏิบัติงานในลักษณะหลายศูนย์ โดยยังคงการเปิดทำการสาขาที่ไม่ได้รับผลกกระทบและการใช้งานเครืองเอทีเอ็มนอกพื้นที่น้ำท่วมและในห้างสรรพสินค้า 
           

2. การปฏิบัติงานของพนักงานเท่าที่จำเป็น
 โดยพนักงานส่วนหนึ่งในหน่วยงานหลัก(Critical Function) ปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานใหญ่ และ/หรือ บางส่วนให้ย้ายไปปฏิบัติงานที่ศูนย์สำรองที่กำหนด สำหรับพนักงานในหน่วยงานอื่นที่ไม่มีงานจำเป็นเร่งด่วนหรือสำคัญ ให้ปฏิบัติงานจากที่บ้าน
           

ทั้งนี้ รายงานข่าวจาก ธปท. แจ้งว่า  วันที่ 8 พ.ย. 2554  ธนาคารพาณิชย์ แจ้งหยุดให้บริการในพื้นที่น้ำท่วม มีรายละเอียดดังนี้
           

1.การปิดสาขา  ธนาคารพาณิชย์ 13 แห่ง ธนาคารพาณิชย์เพื่อรายย่อย 2 แห่ง และบริษัทเงินทุน 1 แห่ง แจ้งปิดสาขารวม 631 สาขา (เพิ่มขึ้นอีก 11 สาขา จากวานนี้) ส่วนใหญ่เป็นการปิดสาขาเพิ่มใน กทม.( โดยเฉพาะแถบบางบอนภาษีเจริญ และมีนบุรี ) 
          

 ทั้งนี้ ในวันนี้มีการปิดสาขาใน 8 จังหวัด ประกอบด้วย กทม. 342 สาขา ปทุมธานี 150 สาขา นนทบุรี 66 สาขา นครปฐม 33 สาขา พระนครศรีอยุธยา 19 สาขา สมุทรสาคร 14 สาขา นครสวรรค์ 5 สาขา และชัยนาท 2 สาขา 
           

โดยธนาคารพาณิชย์ที่มีการปิดสาขามากที่สุดได้แก่ ธ.ไทยพาณิชย์ 126 สาขา ธ.กรุงไทย 99 สาขา และ ธ.กสิกรไทย 92 สาขา  อย่างไรก็ตาม ในบางพื้นที่โดยเฉพาะจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและนครสวรรค์ซึ่งเคยได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจนทำให้มีการปิดสาขามากถึง 61 สาขา และ 31 สาขา ตามลำดับ ขณะนี้ธนาคารพาณิชย์สามารถเปิดดำเนินการสาขาได้เกือบเป็นปกติแล้ว โดยในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สาขาที่ยังปิดอยู่ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรมซึ่งยังคงมีน้ำท่วมขังและรอการฟื้นฟู
           

2.การปิดเครื่อง ATM  ธนาคารพาณิชย์ปิดให้บริการเครื่อง ATM รวม 5,493 เครื่อง (เพิ่มขึ้น 70 เครื่อง) ใน 21 จังหวัด ประกอบด้วย กทม. 2,107 เครื่อง (จากจำนวน ATM ใน กทม.ทั้งหมด 13,996 เครื่อง) ปทุมธานี 1,500 เครื่อง นนทบุรี 729 เครื่อง พระนครศรีอยุธยา 618 เครื่อง นครปฐม 223 เครื่อง สมุทรสาคร 149 เครื่อง นครสวรรค์ 52 เครื่อง และสมุทรปราการ 44 เครื่อง ที่เหลือกระจายอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์