ตลาดทีวีคึกคักรับฟุตบอลยูโร จอแอลซีดี-แอลอีดีแตะ2ล้าน

ตลาดทีวีคึกคักรับฟุตบอลยูโร จอแอลซีดี-แอลอีดีแตะ2ล้าน

กระแสบอลยูโรแรง ดันตลาดจอแอลซีดี-แอลอีดีปีนี้พุ่งทะลุ 2 ล้าน เผยจอ 32 นิ้วขายดี ′โตชิบา′ชี้ช่วงแข่งดันยอดขายเพิ่ม 30-50% ด้านตลาดเบียร์ไม่น้อยหน้า ยอดผลิตแรงตั้งแต่ต้นปี คาดร้านค้าสต๊อกไว้ล่วงหน้า

นายณัฐพงษ์ อารีกุล รองประธานบริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด

เปิดเผยว่า จากกระแสฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหรือยูโร 2012 นั้น จะเป็นปัจจัยหลักในการผลักดันให้ความต้องการจอแอลซีดีและแอลอีดีเพิ่มขึ้น โดยประเมินว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 1.6 ล้านเครื่องในปีก่อน เป็น 2 ล้านเครื่องในสิ้นปีนี้ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 25% และในส่วนโตชิบาคาดว่ายอดขายในช่วงยูโรจะเติบโตจากช่วงปกติประมาณ 30-50%


นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ได้วางกลยุทธ์ไว้หลากหลาย ทั้งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่

เช่น ทีวี สามมิติเครื่องแรกของโลกขนาด 55 นิ้ว ที่่่ไม่ต้องใช้แว่น การเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาในช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 การทำตลาดแบบสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง การส่งเสริมการขาย การตกแต่งหน้าร้านเพื่อการรับรู้และแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้งบประมาณรวมทั้งปี 500 ล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้น 30%


นายณัฐพงษ์กล่าวว่า สำหรับจอที่่่่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นจอแอลซีดีขนาด 32 นิ้ว มีสัดส่วนประมาณ 50% ของตลาด

เนื่องจากราคาไม่แพงมากและปรับลดลงจากช่วงสองปีก่อนมาก จากกว่า 2 หมื่นบาท เหลือประมาณ 8 พันบาท ตามด้วยจอขนาด 40 นิ้ว มีสัดส่วนประมาณ 20-30% ของตลาดรวมและเชื่อว่าจอแอลซีดีขนาด 40 นิ้ว จะมีแนวโน้มที่เติบโตได้ดี จากปัจจัยเรื่องราคาซึ่งปรับลดลง 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของตลาดเบียร์ ที่่่่ได้รับความนิยมในช่วงเทศกาลฟุตบอลสำคัญ

มีการจัดกิจกรรมการตลาดในช่วงการแข่งขันเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยยอดผลิตเพื่่อจ่ายภาษีสรรพสามิตในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 21% มียอดผลิตเบียร์รวมทั้งสิ้น 353 ล้านลิตร บริษัท สิงห์ คอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตเบียร์สิงห์ และลีโอ เป็นบริษัทที่มียอดผลิตเพื่อจ่ายภาษีสูงสุด 244 ล้านลิตร คิดเป็นส่วนแบ่ง 69.06% บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเบียร์ช้าง มียอดผลิต 94 ล้านลิตร คิดเป็นส่วนแบ่ง  27.76% บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค จำกัด ผู้ผลิตเบียร์ไฮเนเก้น มียอดผลิต 13 ล้านลิตร คิดเป็นส่วนแบ่ง 3.76% และซานมิเกล มียอดผลิต 1.4 ล้านลิตร มีส่วนแบ่ง 0.41% 


นายฉัตรชัย วิรัตน์โยสินทร์ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัท สิงห์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและทำตลาดเบียร์สิงห์
 
เปิดเผยว่า การที่่่่ยอดผลิตช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ปรับเพิ่มขึ้นถึง 21% นั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการสต๊อกสินค้าของร้านค้าเพื่อรองรับกิจกรรมในช่วงฟุตบอลยูโร แต่ไม่ได้มีผลกับแผนการผลิตเบียร์ ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ยอดผลิตปรับเพิ่มขึ้นนั้น เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้น มีเงินเข้าสู่ระบบทั้งจากโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐ และเงินช่วยเหลือเยียวยาจากเหตุการณ์อุทกภัยในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้การบริโภคโดยรวมของผู้บริโภคปรับเพิ่มขึ้นตาม อย่างไรก็ตาม การที่่เบียร์สิงห์มียอดผลิตมากนั้นเป็นเพราะปัจจุบันสิงห์มียอดขายมากกว่าเบียร์ช้าง จากการที่มุ่งทำตลาดอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์