ครม.ยืดงดเก็บภาษีดีเซลอีก 1 เดือน น้ำมันลดทุกชนิดลด 30 สต.

ครม.ยืดงดเก็บภาษีดีเซลอีก 1 เดือน น้ำมันลดทุกชนิดลด 30 สต.

*ยืดงดเก็บภาษีดีเซลอีก 1 ด.

 วันที่ 20 พ.ค. นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงว่า ที่ประชุมครม.มีมติให้ขยายระยะเวลาการงดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากน้ำมันดีเซลออกไป 1 เดือน จากเดิมที่มาตรการนี้จะหมดอายุในวันที่ 31 พ.ค.นี้ ไปเป็นหมดอายุในวันที่ 30 มิ.ย. ส่งผลให้รัฐบาลสูญเสียรายได้ประมาณ 9,000 ล้านบาท โดยนายกฯกล่าวในที่ประชุมว่า การที่รัฐบาลลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตออกไปอีก 1 เดือน ในช่วงที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงลดราคาลงอย่างต่อเนื่องนั้น เนื่องจากต้องการให้ผู้ประกอบการด้านการขนส่งไม่มีข้ออ้างในการปรับราคาค่าโดยสารหรือปรับราคาค่าขนส่งสินค้า โดยคาดว่ามาตรการนี้จะช่วยลดช่องว่างของราคาสินค้าระหว่างต้นทางกับปลายทางได้อีกด้วย

*ขายขาดทุนมันเส้นทำเอทานอล

 นายภักดีหาญส์กล่าวว่า ที่ประชุมครม.ยังมีมติอนุมัติโครงการผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลัง โดยใช้มันเส้นตามโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังปี 2554/55 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยจะนำมันสำปะหลังที่อยู่ในโครงการรับจำนำตามโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังไปผลิตเอทานอลวันละ 6,500 ตัน ในราคาตันละ 7,316.50 บาท ทั้งนี้ ราคารับซื้อมันสำปะหลังที่ราคาตันละ 7,316.50 บาท เกิดจากการที่กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน ได้ไปหารือกับโรงงานเอทานอลในการลดราคาจำหน่ายลงจากเดิมที่คณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลังเห็นชอบให้จำหน่ายมันเส้นที่ราคา7947.90บาทต่อตัน ตามราคาเท่ากับต้นทุนมันเส้นตามโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังปี 2554/55 โดยจะจำหน่ายเอทานอลในราคาที่ตกลงกันใหม่ในปริมาณรวมกันไม่เกิน 6.5 หมื่นตัน

*ราคาน้ำมันปรับลด

 รายงานข่าวจากธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 พ.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 05.00 น. บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และบริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) จะปรับลดราคาน้ำมันทุกชนิดลง 30 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้นน้ำมันอี 20 ลดลง 50 สตางค์ต่อลิตร โดยราคาขายปลีกแต่ละชนิดเป็นดังนี้ เบนซิน 95 ราคา 45.00 บาทต่อลิตร เบนซิน 91 ราคา 41.05 บาทต่อลิตร น้ำมันอี 85 ราคา 22.18 บาทต่อลิตร น้ำมันอี 20 ราคา 34.48 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 ราคา 37.63 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 ราคา 35.88 บาทต่อลิตร และดีเซล ราคา 29.83 บาทต่อลิตร

*นักวิชาการแนะยื้อดีเซล 30 บ.

 นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านพลังงาน กล่าวว่า คาดว่าราคาน้ำมันจะลดลงต่อเนื่อง มีผลจากตลาดโลกที่คงลดลงจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจโลก และสภาพอากาศร้อนที่ไม่จูงใจให้ใช้น้ำมันในปริมาณมาก อย่างไรก็ตามต้องติดตามผลการเจรจาระหว่างประเทศอิหร่านกับ 5 ชาติตะวันตกวันที่ 23 พ.ค. หากได้ข้อสรุปลงตัวราคาจะลดลงอีก แต่หากไม่ลงตัวเชื่อว่าราคาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ดังนั้นหากแนวโน้มคือราคาลดลงหลังวันที่ 23 พ.ค. รัฐบาลต้องพิจารณาราคาขายอย่างรอบคอโดยเฉพาะน้ำมันดีเซลไม่ควรปล่อยให้ราคาลดลงไปถึง 28 บาทต่อลิตร แต่ควรรักษาระดับ 29-30 บาทต่อลิตร และราคาที่แนวโน้มลดลงควรใช้เก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะเหมาะสมกว่า เพื่อให้กองทุนน้ำมันฯมีสภาพคล่องมากขึ้น จากปัจจุบันติดลบประมาณ 22,000 ล้านบาท

 "หากกองทุนน้ำมันมีฐานะดีจะช่วยส่งเสริมพลังงานทดแทนให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้น ดังนั้นถ้าดีเซลอยู่ในช่วงขาลงควรใช้โอกาสนี้เก็บเงินเข้ากองทุน ไม่ควรปล่อยให้ราคาลงไปแตะถึง 28 บาทต่อลิตร เพราะประชาชนจะไม่รู้สึกว่าลดลงมาก ตรงกันข้ามหากปล่อยให้ลงถึง 28 บาทต่อลิตร แล้วราคาตลาดโลกผันผวนกลับมาสูง ราคาที่แพงกว่า 28 บาทลิตร อาจทำให้รัฐบาลโดนโจมตีว่าบริหารราคาพลังงานผิดพลาดเหมือนที่ผ่านมา ดังนั้นเมื่อมีบทเรียนแล้วต้องไตร่ตรองให้ดี" นายมนูญกล่าว

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์