ตระกูลเจียรวนนท์ยังยึดอันดับ 21 มหาเศรษฐีโลกประจำปี 2020

เครือเจริญโภคภัณฑ์ ระบุว่า ปี 2563 ถือเป็นปีที่มีความท้าทายในภาคธุรกิจ โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทบต่อหลายธุรกิจทั่วโลก อย่างไรก็ตาม หลายตระกูลมหาเศรษฐีทั่วโลกต้องมีการปรับตัวกับสถานการณ์ที่กระทบการลงทุนใหม่ กระทบต่อธุรกิจในปัจจุบัน และที่สำคัญกระทบต่อพนักงานในองค์กร

สำหรับประเทศไทย บริษัทที่ติดอันดับดีที่สุดจากการจัดอันดับโดยบลูมเบิร์ก ซึ่งเปิดเผยผลจัดอันดับคนรวย โดยปีนี้ "วอร์ตัน" เจ้าของกิจการวอลมาร์ท (Walmart) ยังครองแชมป์มหาเศรษฐีโลกมีทรัพย์สิน 215 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6,880,000 ล้านบาท ถือว่าเป็นตระกูลที่บริหารธุรกิจค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุด มีสาขากว่า 11,000 สาขาทั่วโลก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานการจัดอันดับมหาเศรษฐีโลกเดือนสิงหาคม ปี 2563 โดยบลูมเบิร์ก ระบุว่า

 อันดับที่ 21 เป็นของตระกูลเจียรวนนท์ มีทรัพย์สินมูลค่ารวม 30.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 982,400 ล้านบาท ซึ่งเป็นธุรกิจที่เริ่มต้นในประเทศไทยและขยายการลงทุนไปกว่า 22 ประเทศทั่วโลก โดยล่าสุดขยายธุรกิจฟาร์มกุ้งไปในประเทศสหรัฐอเมริกา และมีธุรกิจด้านอาหารทั้งในอเมริกาและยุโรป ทำให้รักษาการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ เครือซีพีมีธุรกิจหลากหลาย อาทิ เกษตร อาหาร ค้าปลีก สื่อสาร และ ธุรกิจอื่น ๆ ในหลายประเทศ โดยมีการนำธงชาติไทยไปติดทุกสำนักงานที่ไปลงทุน นอกจากนี้ ปี 2020 เครือซีพีประกาศนโยบายความยั่งยืนสู่เป้าหมายการเป็นองค์กรปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ และการบริหารจัดการของเสียเป็นศูนย์ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ

ทั้งนี้ ในช่วงวิกฤติโควิด-19 เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้บริจาคเงินช่วยเหลือสังคมในประเทศไทย รวมยอดกว่า 700 ล้านบาท เงินลงทุนดังกล่าว แบ่งเป็นสร้างโรงงานหน้ากากอนามัยฟรี 100 ล้านบาท พร้อมเพิ่มงบผลิตหน้ากากอีก 75 ล้านบาท บริจาค อุปกรณ์การแพทย์ 30 ล้านบาท, โครงการมอบอาหารต้านภัยโควิด-19 ให้บุคลากรการแพทย์และผู้ถูกกักตัว 200 ล้านบาท, มอบ 77 ล้านบาท ให้กับ 77 โรงพยาบาล และโครงการอื่น ๆ 176.60 ล้านบาท, แจกอุปกรณ์สื่อสารให้กับโรงพยาบาลทั้งดาต้า หุ่นยนต์ ซิมและอินเทอร์เน็ต 12 ล้านบาท รวมถึงมีการประกาศนโยบายไม่เลิกจ้างพนักงาน

 ซึ่งปัจจุบันเครือซีพีมีพนักงานกว่า 400,000 คนทั่วโลก ซึ่งได้ทำการส่งออกสินค้าไปยังกว่า 100 ประเทศทั่วโลก