โพลเผยคนไม่เห็นด้วยตั้งคาสิโน ชี้การพนันเป็นอบายมุขที่ผิดกม.

โพลเผยคนไม่เห็นด้วยตั้งคาสิโน ชี้การพนันเป็นอบายมุขที่ผิดกม.

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)


 เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง "ข้อเสนอตั้งบ่อนคาสิโนเพื่อดึงเงินเข้ารัฐ" ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 17 - 19 มิ.ย.58 จากประชาชนทั่วประเทศ กระจายทั่วทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,501 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับกรณีสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กลุ่มหนึ่งเสนอตั้งบ่อนคาสิโนเพื่อดึงเงินเข้ารัฐ

จากการสำรวจ เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อข้อเสนอของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กลุ่มหนึ่งที่ให้รัฐบาลตั้งบ่อนคาสิโนเพื่อดึงเงินเข้ารัฐ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 54.96 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอ เพราะ การพนันเป็นอบายมุขที่ผิดกฎหมายและผิดศีลธรรม เป็นการมอมเมาให้คนติดการพนัน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน อีกทั้งหวั่นเกรงในเรื่องของผลกระทบที่จะตามมา เช่น ปัญหาอาชญากรรม การลักเล็กขโมยน้อย เป็นต้น จึงไม่ควรสนับสนุนหรือส่งเสริมให้คนเล่นการพนันในทางอ้อม ขณะที่ ร้อยละ 37.04 ระบุว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอ เพราะ ทุกวันนี้ในประเทศไทยก็มีบ่อนที่ผิดกฎหมาย (บ่อนใต้ดิน) อยู่แล้ว ก็ควรทำให้ถูกกฎหมาย คนไทยจะได้ไม่ต้องเดินทางออกนอกประเทศออกไปเล่นในต่างประเทศ ทำให้เม็ดเงินหมุนเวียนอยู่ภายในประเทศ และเป็นการเพิ่มช่องทางการจัดเก็บภาษี และในแถบเพื่อนบ้านของไทยมีคาสิโนกันหมดแล้ว แม้ในบางประเทศที่เคร่งครัดทางศาสนาก็ยังมีบ่อนคาสิโนที่ถูกกฎหมาย และร้อยละ 8.00 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจเมื่อปี 2554 ในหัวข้อ "บ่อนการพนัน" พบว่า ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการที่จะให้ประเทศไทยมีบ่อนการพนันที่ถูกฎหมายถึง ร้อยละ 61.47 ขณะที่ ร้อยละ 31.79 ระบุว่า เห็นด้วย และร้อยละ 6.74 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าผลการสำรวจทั้ง 2 ครั้งจะสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน แต่กลุ่มผู้สนับสนุนให้ประเทศไทยมีบ่อนการพนันที่ถูกฎหมายมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ผู้ที่คัดค้านมีสัดส่วนที่ลดลง

เมื่อถามประชาชนที่เห็นด้วยกับข้อเสนอตั้งบ่อนคาสิโนเพื่อดึงเงินเข้ารัฐ เกี่ยวกับความคิดเห็นต่อรูปแบบการตั้งบ่อนคาสิโน พบว่า

 ส่วนใหญ่ ร้อยละ 36.51 ระบุว่า ควรอนุญาต ให้เปิดบ่อนเสรี โดยรัฐเก็บค่าสัมปทานและภาษี รองลงมา ร้อยละ 32.01 ระบุว่า ควรสร้างเป็นบ่อนคาสิโนระบบปิดที่เก็บค่าเข้าในอัตราที่สูงและตั้งอยู่ในศูนย์ประชุมนานาชาติ แหล่งท่องเที่ยวครบวงจร ร้อยละ 27.16 ระบุว่า ควรให้รัฐเป็นเจ้าของบ่อนคาสิโนเองทั้งหมด ร้อยละ 1.44 ระบุว่า อื่นๆ ได้แก่ ควรสร้างเหมือนกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สิงคโปร์ กัมพูชา ลาว เป็นต้น แต่หากเป็นระบบปิดไม่ควรเก็บค่าเข้า และสร้างแบบใดก็ได้ และร้อยละ 2.88 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

ท้ายที่สุด เมื่อถามประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอตั้งบ่อนคาสิโนเพื่อดึงเงินเข้ารัฐ เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาคนไทยเดินทางไปเล่นการพนันในบ่อนประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ตามแนวชายแดน พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 37.94 ระบุว่า ควรเก็บภาษีการเดินทางออกนอกประเทศในอัตราสูง รองลงมา ร้อยละ 27.88 ระบุว่า ควรออกกฎหมายควบคุมนักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐไม่ให้เข้าบ่อนคาสิโนไม่ว่าที่ไหนในโลก ร้อยละ 20.48 ระบุว่า ควรควบคุมการนำเงินเข้า/ออกนอกประเทศอย่างเข้มงวด ร้อยละ 18.67 ระบุว่า ควรตั้งด่านตรวจค้นตามแนวชายแดนเพื่อป้องปราม ร้อยละ 6.55 ระบุว่า ควรปิดชายแดนในช่วงวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน ร้อยละ 3.27 ระบุว่า แก้ไขได้ยาก เพราะเป็นสิทธิและความชอบส่วนบุคคล อยู่ที่ตัวบุคคล ร้อยละ 1.33 ระบุว่า อื่น ๆ ได้แก่ ควรออกกฎหมายและบทลงโทษที่เข้มงวด ไม่ให้ประชาชนเข้าไปเล่นบ่อนการพนัน ควรส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และปลูกฝังค่านิยมที่ถูกต้อง ชี้ให้เห็นถึงข้อเสียและโทษของการเล่นการพนัน เป็นต้น และร้อยละ 8.97 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ


โพลเผยคนไม่เห็นด้วยตั้งคาสิโน ชี้การพนันเป็นอบายมุขที่ผิดกม.


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์