ปตท.โต้ข้อหาขายน้ำมันแพง ไม่ถอดใจ-ข่าวปลดบอร์ด

ปตท.โต้ข้อหาขายน้ำมันแพง ไม่ถอดใจ-ข่าวปลดบอร์ด

ปตท.โต้ข้อหาขายน้ำมันแพง ไม่ถอดใจ-ข่าวปลดบอร์ด

ซี อีโอปตท.ย้ำผู้บริหารทุกคนทำงานเต็มที่ ไม่มีใครชิงลาออกตามข่าวจะปลดบอร์ด วอนคสช.พิจารณาข้อเท็จจริง หลังมีข่าวลบออกมาโจมตีโดยตลอด พร้อมยันจะแยกธุรกิจน้ำมันออกจากกลุ่มธุรกิจของปตท. เพื่อให้เห็นผลกำไรชัดเจนขึ้น ว่าไม่ได้มีมากมายนับแสนล้านอย่างที่ถูกกล่าวหา

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)

 เปิดเผยถึงผู้ไม่หวังดีพยายามเผยแพร่ข้อมูลโจมตีปตท.ว่า มีกำไร 1 แสนล้านบาทจากธุรกิจน้ำมันว่า ในความเป็นจริงปตท. มีรายได้จากธุรกิจอื่น และยังมีการจ่ายเงินปันผลต่อปี 4 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือ 6 หมื่นล้านบาท นำไปลงทุนพัฒนาเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ อีกทั้งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการแยกธุรกิจน้ำมันออก จากกลุ่มธุรกิจของปตท.ด้วย

"ขณะนี้มีการศึกษา 2 แนวทาง คือ 1.เปลี่ยนชื่อแบรนด์ที่ปัจจุบันคือ ปตท. เป็นชื่อใหม่ที่ยังไม่ได้กำหนดว่าคืออะไร เช่นตัวอย่างในอดีตเคยใช้ชื่อปั๊ม 3 ทหาร และ 2.แยกหน่วยธุรกิจน้ำมันออกมาจากกลุ่มธุรกิจอื่นของปตท. เพื่อแยกบัญชีกำไรขาดทุนชัดเจน สร้างความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจต่อสาธารณชน คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ และจะเสนอให้บอร์ดพิจารณาเห็นชอบโดยเร็วที่สุด" นายไพรินทร์กล่าว

นาย ไพรินทร์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้โดยส่วนตัวยังเห็นควรให้ปล่อย ราคาพลังงานเป็นไปตามกลไกตลาด

 แต่อาจยังมีกองทุนน้ำมัน ทำหน้าที่ชดเชยราคาพลังงานเฉพาะบางกลุ่ม เช่น ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ภาค ครัวเรือน เป็นต้น ไม่ใช่ใช้กองทุนชดเชยโดยไม่เป็นไปตามกฎหมาย และวัตถุประสงค์อย่างแท้จริงจนเกิดภาระเหมือนที่ผ่านมา ดังนั้น ควรมีการพิจารณาปรับรูปแบบให้เหมาะสมแทนการยุบทิ้ง เนื่องจากขณะนี้ ยังไม่มีเครื่องมือใดเข้ามาทดแทน

นายไพรินทร์กล่าวว่า แนวทางหนึ่งที่จะเข้ามาแก้ปัญหาราคาน้ำมันไม่ให้กระทบประชาชนมาก คือ

การจัดตั้งคลังสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ เพื่อให้ไทยมีการสำรองน้ำมันไว้ใช้ช่วงที่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันเกิดปัญหา ต่างๆ เช่น ปัญหาการเมือง การสู้รบ จนทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกขยับสูงขึ้นมาก แต่หากไทยมีคลังน้ำมันจะช่วยรักษาราคาไม่ให้สูงตามได้ อีกทั้งหากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะมีนโยบายอุดหนุนราคาก็สามารถทำได้ แต่ต้องเป็นการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม เช่น น้ำมันและก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี)

"สำหรับกรณีที่ปตท.ถูก โจมตีผ่านโซเชี่ยลมีเดียในหลายเรื่อง อยากให้คสช. พิจารณารายละเอียดอย่างรอบด้าน เพราะข้อมูลไม่เป็นความจริง และหลายครั้งมีเจตนาสร้างความบิดเบือน โดยปตท.พร้อมบริหารงานเพื่อดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ ส่วนจะปรับเปลี่ยนตัวผู้บริหารในบอร์ดปตท. ตามที่มีกระแสก่อนหน้านี้หรือไม่นั้น ส่วนตัวไม่ทราบเพียงแต่เชื่อมั่นผู้บริหารทุกคนที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในบอร์ด นี้มีความ เชื่อถือได้ และยืนยันขณะนี้ยังไม่มีผู้บริหารท่านใดมายื่นหนังสือลาออก แต่อย่างใด" กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. กล่าว

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์