เตือนข้าราชการมีรถหรูขับ -ระวังสรรพากรเล็งเช็ค!

เตือนข้าราชการมีรถหรูขับ -ระวังสรรพากรเล็งเช็ค!

กรมสรรพากร เตรียมนำระบบ จีไอเอส ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบข้อมูล ทำให้รู้ข้อมูลของผู้เสียภาษีทั้งหมดเพื่อช่วยขยายฐานผู้เสียภาษี

วันที่ 17 เม.ย.นายสุทธิชัย สังขมณี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ขณะนี้ กรมสรรพากร เตรียมนำระบบ จีไอเอส

 ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบข้อมูล ทำให้รู้ข้อมูลของผู้เสียภาษีทั้งหมด พร้อมทั้งจะนำข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทย และการไฟฟ้า เพื่อตรวจสอบทุกตารางนิ้วของพื้นที่ว่าในพื้นที่แต่ละเขตรับผิดชอบมีที่อยู่อาศัยเท่าไร โดยเฉพาะในบ้านแต่ละหลังมีผู้อยู่อาศัยกี่คน คนที่อยู่ในบ้านมีรายได้เท่าไร แยกเป็นคนวัยทำงาน วัยเรียน ผู้สูงอายุเท่าไรเพื่อดูว่าคนที่อยู่ในบ้านนั้นมีรายได้อย่างไร เพื่อช่วยขยายฐานผู้เสียภาษีและสามารถจัดเก็บภาษีได้อย่างเป็นธรรม

ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวจะเอามาประกอบกับข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย เพื่อดูเรื่องการย้ายเข้าและออก รวมทั้งข้อมูลจากการไฟฟ้า
 
เพื่อตรวจสอบข้อมูลของบุคคลที่เป็นกรรมการ ว่ามีการใช้ไฟระหว่างสถานประกอบการกับที่บ้านมีความแตกต่างกันอย่างไร เบื้องต้นเริ่มทำโครงการนำร่องในเขตที่มีประชากรหนาแน่น เช่น พัทยา ส่วนกรุงเทพฯ จะเริ่มจากพื้นที่ซอยอารีย์ ซึ่งอยู่ใกล้ที่ตั้งกรมสรรพากรก่อน คาดว่าการทำระบบที่สมบูรณ์กว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จคงช่วงปลายปี 57 โดยระหว่างนี้เตรียมคัดเลือกบริษัทที่วางระบบและร่างสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาระบบ จีไอเอส ทำให้รู้ข้อมูลของผู้เสียภาษีทั้งหมด ตอบโจทย์ได้ว่าประชากร 70 ล้านคน ใครมีหน้าที่อะไรบ้าง
 
และถ้าทำระบบสำเร็จและใช้ทั้งประเทศ เชื่อว่าจะช่วยขยายฐานผู้เสียภาษีและสามารถจัดเก็บภาษีได้อย่างเป็นธรรม รวมทั้งหารายได้มาชดเชยกับการปรับโครงสร้างภาษีบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลได้ นอกจากนี้ยังเตรียมนำระบบ แคช รีซีฟ ซิสเต็มส์ มาตรวจสอบเรื่องการออกใบกำกับภาษีปลอมอีกด้วย

“นิติบุคคลส่วนใหญ่จดทะเบียนขั้นต่ำ ทรัพย์สินไม่ค่อยมี แต่รายได้สูง จะเห็นว่าเดี๋ยวนี้บ้านหลัง 40-200 ล้านบาท ทำไมขายได้ และมีอยู่แทบทุกถนนที่มีความเจริญ ข้าราชการ ทำไมมีรถแพง ๆ มีบ้านราคาแพง ๆ ได้ แสดงว่าต้องมีรายได้จากการทำธุรกิจอื่นด้วย ซึ่งเรื่องการเสียภาษีให้ถูกต้องเป็นนโยบายของผมตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งอธิบดี ไม่ใช่เพิ่งมารีดรายได้หลังยอดภาษีตก”

นอกจากนี้การคาดการณ์ยอดจัดเก็บรายได้ภาษีปีงบประมาณ 57 จะอยู่ที่ 1.76 ล้านล้านบาท

ต่ำกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ 1.89 ล้านล้านบาท หรือลดลง 7% เนื่องจาก 6 เดือนแรกที่ผ่านมาพบว่า ยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่มาจากการนำเข้าลดลง 18,000 ล้านบาท หรือลดลง 11% และเศรษฐกิจที่ซบเซาจากปัญหาการเมืองทำให้คนชะลอการใช้จ่าย เอกชนลดการลงทุนใหม่.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์